การตรวจยึดเครื่องบดผสมกาแฟ เครื่องซีลหีบห่อ ถุงบรรจุกาแฟ ครีมเทียม และ ซองกาแฟยี่ห้อดัง ที่เตรียมจำหน่ายกว่า 4 แสนซอง จากโกดังสินค้าแห่งหนึ่ง ใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ของเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เมื่อเร็วๆ นี้ เป็นเครื่องบ่งชี้อีกอย่างหนึ่งถึงความเสี่ยงของผู้บริโภคที่ไม่สามารถทราบได้ว่า ผลิตภัณฑ์ที่บริโภคไปนั้นมีคุณภาพหรือไม่ โดยเฉพาะวัตถุดิบที่ผสมอยู่ในซองกาแฟทรีอินวันปลอม อย่างเช่น "ครีมเทียม" ที่พบว่าอาจไม่ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค
รศ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลว่า ครีมเทียม คือ ไขมันพืชที่ถูกนำมาเข้ากระบวนการแปรรูป ผสมน้ำเชื่อม โปรตีนนม และสารอื่นๆ
"ครีมเทียมคือการเอาไขมันมาเปลี่ยนสภาวะเป็นของแข็ง สิ่งที่ตามมาก็คือไขมันทรานส์ ซึ่งถ้าจับไปหลอดเลือดจะทำให้เกิดปัญหาหลอดเลือดอุดตันได้ สำหรับผู้ผลิตครีมเทียมยี่ห้อดังๆ ก็อาจจะมีกระบวนการลดปริมาณไขมันทรานส์ในครีมเทียม แต่สำหรับกาแฟสมสำเร็จรูป เราไม่ทางรู้เลยว่ามีปริมาณไขมันทรานส์มากน้อยแค่ไหน ถ้าบริโภคเราไปนานๆ ก็อาจมีปัญหาทำให้ร่างกายมีไขมันทรานส์สูงได้" รศ.เจษฎากล่าว
ปัจจุบันการผลิตครีมเทียมของผู้ผลิตยี่ห้อดัง จะมีกรรมวิธีที่ทำให้ครีมเทียมปราศจาก "ไขมันทรานส์" ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะมีผลให้คอเลสเตอรอล และ ไตรกรีเซอไรด์ ในเลือดเพิ่มขึ้น จึงเป็นไปได้ที่กาแฟทรีอินวันปลอม อาจมีส่วนผสมของครีมเทียมที่ไม่ได้คุณภาพ
แม้การสังเกตจากลักษณะของบรรจุภัณฑ์อาจไม่ได้บ่งบอกชัดเจนว่า กาแฟที่บริโภคเป็นของแท้หรือของปลอม นักวิชาการจึงแนะนำให้ผู้บริโภคพิจารณาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีราคาเป็นมาตรฐาน หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่วางขายปริมาณมาก ราคาถูก ตามตลาดนัดทั่วไป