วันนี้ (13 ต.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทานระบุว่า ขณะนี้ยังคงควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ 2,297 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อให้มีพื้นที่รองรับปริมาณน้ำ ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกในช่วงวันที่ 14-17 ต.ค.นี้ ทั้งนี้ผลการระบายน้ำยังคงส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาและพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ
ส่วนที่ภาคเหนือนอกจากจังหวัดที่มีน้ำท่วมต่อเนื่อง ที่ จ.พิจิตร จ.พิษณุโลก และ จ.กำแพงเพชร ที่หมู่บ้านนาไหม้ หมู่ 2 ต.เมืองมาย อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ถูกน้ำป่าไหลเข้าท่วม น้ำซัดสะพานขาด 3 แห่ง และมีพืชผลทางการเกษตรเสียหายจำนวนมาก
ส่วนที่ จ.แพร่ ฝนที่ตกหนักทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนใน อ.ร้องกวาง และ อ.สอง ชาวบ้านต้องขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง ส่วนที่บ้านแม่ลัว และบ้านนาแคม ใน ต.สวนเขื่อน อ.เมืองแพร่ บางจุดมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร
ส่วนชาวบ้านที่ประสบอุบัติเหตุเรือหางยาวล่มกลางแม่น้ำเมย ใน อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ขณะนี้เจ้าหน้าที่พบศพเพียง 1 คน ส่วนอีก 3 คนยังสูญหาย โดยขณะนี้ได้ประสานไปยังทางการเมียนมา เพื่อช่วยค้นหาอีกทางหนึ่ง
ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ ต.ดู่ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด นำปลาที่จับได้ในนาข้าวที่ถูกน้ำท่วมมาแปรรูปขายเพื่อหารายได้เสริม หลังจากนาข้าวถูกน้ำท่วมขังนานกว่า 1 เดือน
ขณะที่ จ.นครราชสีมา แม้ว่าจะมีฝนตกในพื้นที่แต่ปริมาณน้ำในเขื่อนหลัก 5 แห่งของจังหวัด มีปริมาณน้ำรวมกันไม่ถึงร้อยละ 50 ของความจุอ่าง โดยเฉพาะที่เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำใช้การอยู่ที่ 63 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณร้อยละ 22 เท่านั้น ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ประสานหน่วยงานที่เกียวข้องทุกอำเภอ สูบน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติกักเก็บไว้ใช้ในฤดูแล้งปีหน้า