วันนี้(13 ต.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างยังไม่คลี่คลาย เช่นเดียวกับระดับน้ำในพื้นที่ภาคกลางที่ยังสูงและท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ที่ จ.อ่างทอง น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ อ.ป่าโมก ไหลทะลักจากพนังกั้นน้ำตลอดแนวกำแพงกว่า 10 จุด ของเทศบาลตำบลป่าโมก เข้าท่วมบ้านและสถานที่ราชการหลายแห่ง เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดต้องนำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งเพิ่มอีก 1 เครื่อง เพื่อช่วยระบายน้ำ ล่าสุดน้ำน้ำเจ้าพระยาอยู่เหนือระดับตลิ่งกว่า 50 เซ็นติเมตรแล้ว
ส่วนที่ ต.เสนา อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ชาวบ้านและพระภายในวัดหัวเวียง เร่งนำศพของหลวงตาแพ รัตนมงคลวัย 80 ปี พระลูกวัดหัวเวียง ซึ่งมรณภาพภายในกุฎิที่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1.50 เซ็นติเมตร ไปไว้ยังวัดโบสถ์ล่าง ต.บ้านแพน อ.เสนา เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา ที่ ต.ลุมพลี อ.พระนครศรีอยุธยา ขณะที่องค์การบริหารลุมพลีประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ 3 หมู่บ้าน
ขณะที่ตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยาตรวจเยี่ยมบ้านที่ถูกน้ำท่วม และตั้งด่านตรวจความเรียบร้อย บนถนนผักไห่-เสนา ที่ชาวบ้านนำสิ่งของไปไว้บนถนน หลังรับแจ้งว่ามีมิจฉาชีพขโมยของที่ชาวบ้านนำมาวางบนถนน
นอกจากนี้ น้ำที่ยังท่วมสูงใน จ.พิจิตร ทำให้ชาวนา หมู่ที่ 8 ต.ไผ่รอบ อ.โพธิ์ประทับช้าง ช่วยกันลงแขกเกี่ยวข้าวที่ถูกน้ำท่วม ก่อนนำไปตากให้แห้งและส่งขาย เพราะหากไม่เกี่ยวผลผลิตจะเสียหายทั้งหมด ชาวบ้าน กล่าวว่า ข้าวที่เกี่ยวมีความชื้นสูงขายได้เพียงตันละ 5,500 บาทเท่านั้น แต่ได้ต้นทุนคืนมาบ้าง
ขณะที่ จ.นครสวรรค์ น้ำท่วมยังขยายวงกว้างต่อเนื่อง ล่าสุดน้ำท่วมพื้นที่ หมู่ 4 ต.แควใหญ่ อ.เมืองนครสวรรค์ ชาวบ้านขนย้ายทรัพย์สินไม่ทัน ทำให้ข้าวของเสียหายจำนวนมาก และกำลังเดือดร้อนทั้งเรื่องอาหารน้ำดื่มและห้องสุขา
ส่วนที่ จ.เชียงราย การค้าบริเวณหน้าด่านพรมแดน ไทย-เมียนมา อ.แม่สาย เปิดให้บริการตามปกติแล้ว หลังน้ำป่าที่ไหลเข้าท่วมลดระดับลง ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังมีฝนตกตอนบนซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมซ้ำขึ้นได้อีก