ด้วยสำนักพระราชวังได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้ากราบถวายสักการะเบื้องหน้าพระโกศ พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.2559 ระหว่างเวลา 06.00 - 21.00 น. ภายหลังพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบ 15 วัน
ทั้งนี้ในวันที่ 1 พ.ย.2559 สำนักพระราชวังจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว ตั้งแต่เวลา 08.00 - 15.30 น. จึงได้ปรับเส้นทางการเข้ากราบถวายสักการะเบื้องหน้าพระโกศ พระบรมศพ ในช่วงเวลาดังกล่าว โดยให้นักท่องเที่ยวเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี
ส่วนผู้ที่ไปกราบถวายสักการะเบื้องหน้าพระโกศ พระบรมศพ เข้าทางประตูมณีนพรัตน์ ซึ่งอยู่ด้านทิศเหนือ ตรงข้ามสนามหลวง ฝั่งศาลหลักเมือง ส่วนในช่วงเวลา 06.00 - 08.00 น. และช่วงเวลา 16.30 - 21.00 น.ผู้ที่ไปกราบถวายสักการะเบื้องหน้าพระโกศ พระบรมศพ ให้เข้าทางประตูวิเศษไชยศรี สำหรับทางออกให้ออกทางประตูศรีสุนทร ผ่านประตูวิเศษไชยศรี ด้านถนนมหาราชท่าราชวรดิษฐ์
ผบ.ตร.เตรียมเสนอขยายเวลาเข้าสักการะพระบรมศพ หลังพบปัญหาประชาชนตกค้าง
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจัดกำลังตำรวจวันละ 3,500 นายดูแลความปลอดภัยและความเรียบร้อยโดยรอบสนามหลวง พร้อมยอมรับว่าการจัดการอำนวยความสะดวกประชาชนเข้าสักการะเบื้องหน้าพระโกศ พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังพบปัญหาเพราะในแต่ละวันยังมีประชาชนตกค้าง
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การดูแลความปลอดภัยและการจราจรโดยรอบสนามหลวง และพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.2559 สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับผิดชอบงานใน 3 ส่วนหลักคือ ภารกิจถวายความปลอดภัยแด่พระบรมวงศ์ศานุวงศ์และคณะทูตจากต่างประเทศที่เข้ามาร่วมถวายสักการะพระโกศ พระบรมศพ รวมทั้งการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่มาร่วมงาน และการจัดการจราจรโดยรอบพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาได้ระดมกำลังตำรวจเข้าในพื้นที่วันละกว่า 3,500 นายดูแล
จากปัญหาจำนวนประชาชนที่ตกค้างในแต่ละวัน เตรียมเสนอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบขยายเวลาเข้าสักการะพระบรมศพ หลังเวลา 22.00 - 04.00 น. ส่วนกรณีที่ประชาชนที่นอนรอที่ท้องสนามหลวงก็เตรียมเสนอจัดระเบียบให้ประชาชนออกจากพื้นที่สนามหลวงหลังเวลา 22.00 น.
สำหรับการปิดการจราจรโดยรอบพื้นที่สนามหลวงและพระบรมมหาราชวังในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ จะปิดการจราจรรวม 8 เส้นทาง ในวันเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดราชการ จะปิดเส้นทางรวม 27 เส้นทาง ตามที่เคยปิดไปก่อนหน้านี้ โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนใช้บริการตามจุดจอดรถที่จัดไว้ให้และโดยสารรถชัลเทิ้ลบัสเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจได้รับแจ้งรวม 48 คดี แบ่งเป็นคดีล้วงกระเป๋า กรีดกระเป๋า 14 คดี, แจ้งลืมมือถือและสิ่งของมีค่าสูญหาย 25 คดี และพบบุคคลต่างด้าว 7 คน
ส่วนการเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าชมภายในพระบรมมหาราชวังในวันนี้ (1 พ.ย.2559) เป็นวันแรกนั้น พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า เส้นทางการเข้าชมสถานที่ในพระบรมมหาราชวังจะไม่กระทบกับเส้นทางที่ประชาชนจะเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เพราะเจ้าหน้าที่จะให้นักท่องเที่ยวเดินเข้ามาทางประตูวิเศษไชยศรี และจะให้ประชาชนที่จะเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เข้าทางฝั่งประตูมณีนพรัตน์แทน โดยประตูวิเศษไชยศรีจะมีจุดคัดกรองการแต่งกายของนักท่องเที่ยว