วันนี้ (4 พ.ย.2559) ประชาชนและหน่วยงานราชการ ประมาณ 10,000 คน ใน จ.พังงา ร่วมกันแปรอักษรสัญลักษณ์เลข 9 อยู่ในรูปหัวใจ ที่สนามกีฬากลางจังหวัด ก่อนกล่าวปฎิญาณตน ขอเป็นข้าของแผ่นดิน ต่อหน้าบรมฉายาลักษณ์ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
คณะผู้บริหารคณาจารย์ บุคลากร และนักเรียนโรงเรียนดรุโณทัย จ.ตรัง กว่า 2,000คน ร่วมกล่าวคำแสดงความอาลัยเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ก่อนร้องเพลงพระราชนิพนธ์ และเพลงสรรเสริญพระบารมี เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ชาว อ.กันตัง จ.ตรัง ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ่างเก็บน้ำบ้านป่าแก่ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องจากโครงการดังกล่าว สามารถพลิกฟื้นชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น สร้างรายได้ในครัวเรือนให้มั่นคงและยังช่วยแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ด้วย
คณะครู และนักเรียน โรงเรียนป้วยฮั้ว ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ จำนวน 1,200 คน ร่วมกันแปรอักษร ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความอาลัยก่อนเข้าเรียนตามปกติ
ประชาชน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา กว่า 2,000 คน รวมตัวบริเวณสนามหน้าเสาธง โรงเรียนพิมายสามัคคี 1 ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย ยืนนั่งสงบนิ่ง 9 นาที และร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี 3 รอบ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่มีต่อปวงชนชาวไทย
นักเรียนโรงเรียนบ้านน้ำลัด อ.เมืองเชียงราย ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนชนเผ่า 14 ชาติพันธุ์ จำนวน 309 คน พร้อมคณะครู จัดกิจกรรมเพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยจัดรูปขบวนเป็นสัญลักษณ์เลข ๙ เพื่อแสดงความสำนึกและพระองค์จะสถิตอยู่ในใจของชาวไทยทุกกลุ่มชาติพันธุ์ตลอดไป
ขณะที่ประชาชนจำนวนมากยังคงเดินทางสู่กรุงเทพมหานครด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อร่วมถวายบังคมหน้าพระโกศพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมหาราชวัง
นายพลอย บุญเพชร์ อายุ 74 ปี อดีตพนักงานการไฟฟ้าชาว จ.นครสวรรค์ ออกเดินเท้าจาก จ.พิจิตรมาถึง จ.นครสวรรค์ โดยระบุว่าในอดีตเคยติดเหล้า แต่น้อมนำเอาพระราชดำรัสในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติ จนสามารถเลิกเหล้าได้และมีชีวิตดีขึ้น จึงตั้งใจเดินทางเท้าไปถวายบังคมพระบรมศพ
นายประภาคาร สกุลเนตร และนายธีรยุทธ บุญยอด อาสาสมัครรักษาดินแดน จ.ภูเก็ต เดินถือพระบรมฉายาลักษณ์ ออกจากจ.พังงามุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อเข้าสักการะพระบรมศพ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
นายตี่ จันทร์ตรี หรือ ลุงโก๊ะ อายุ 70 ปี ชาวบ้าน ต.โพสังโฆ อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี เดินเท้าจากบ้านพักมุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร โดยมีตำรวจจราจรและเจ้าหน้าที่สมาคมนักวิทยุสมัครเล่นกู้ภัย จ.อ่างทอง คอยอำนวยความสะดวก
นายศิลา แสงทอง อายุ 40 ปี ชาว อ.ละอุ่น จ.ระนอง เดินทางด้วยรถวีลแชร์จาก จ.ระนอง ตั้งแต่ วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ล่าสุดเดินทางถึง จ.สมุทรสงครามแล้วเมื่อช่วงเช้า และคาดว่าวันนี้จะเดินทางถึงท้องสนามหลวง ด้วยสำนึกในมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์เคยพระราชทานบ้านเทิดไท ของพ่อหลวง เมื่อปี 2552 จนอยู่อย่างสุขสบายในทุกวันนี้
