รถโดยสารรุ่นใหม่เที่ยวแรกของเส้นทาง อุตราวิถี กำลังเคลื่อนขบวน ออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ โดยมีจุดหมายปลายทางที่สถานีเชียงใหม่ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย รับรถโดยสารรุ่นใหม่ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์จำนวน 115 คันจากประเทศจีนและได้ทดสอบระบบ ก่อนเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ
คริสติน เพน นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่เดินทางมายังประเทศไทยครั้งแรกและใช้บริการรถไฟไทยเป็นครั้งแรก กล่าวว่า มั่นใจว่าจะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆในการเดินทาง และสนุกสนานจากการเดินทางข้ามคืนไปยังเชียงใหม่ครั้งนี้
จุดเด่นภายในรถโดยสารมีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร เช่น ระบบห้องน้ำ แบบระบบสุญญากาศ ระบบป้องกันการสั่นสะเทือนแบบรถไฟฟ้าความเร็วสูง ปลั๊กไฟและไฟหัวเตียงทุกเตียง ส่วนรถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 จะมีจอทีวีส่วนตัว ในอนาคตจะมีการบรรจุภาพยนตร์และเพลงเพื่อให้ความบันเทิงแก่ผู้โดยสารตลอดการเดินทาง
ขณะเดียวกันยังมีพื้นที่ให้ผู้พิการได้ใช้งาน เช่น ห้องน้ำ ที่จอดรถวีลแชร์ และระบบไฮโดรลิกในการขึ้นลง ซึ่งผู้พิการระบุว่า แม้จะไม่ได้เดินทางไปด้วยแต่จากการได้สัมผัสในอนาคตก็ต้องการจะใช้บริการการเดินทางโดยรถไฟ
หลังจากนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย จะเปิดให้บริการเส้นทาง "อีสานมรรคา" กรุงเทพฯ-หนองคาย-กรุงเทพฯ และเส้นทาง "ทักษิณารัถย์" กรุงเทพฯ-หาดใหญ่-กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.เป็นต้นไป โดยการรถไฟตั้งเป้าว่าจะมีผู้ใช้บริการมากกว่าปีละ 1,000,000 คน และสามารถสร้างรายได้ให้แก่การรถไฟได้ถึงปีละ 1,250 ล้านบาท
สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการจองตั๋วโดยสาร ขณะนี้มียอดจองเต็มแล้วหลายขบวน จนถึงช่วงกลางเดือน ม.ค.ปีหน้า แต่ยังมีบางที่นั่งเหลืออยู่ซึ่งประชาชนสามารรถสอบถามได้ที่สายด่วน 1690 ตลอด 24 ชั่วโมงทั้งนี้ ค่าโดยสารรถโดยสารรุ่นใหม่ เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่-กรุงเทพฯ ประเภทรถนอนปรับอากาศชั้น 2 ราคา 791-881 บาท รถนอนปรับอากาศชั้น 1 ราคา 1,253-1,453 บาท
ส่วนเส้นทางกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ รถนอนปรับอากาศชั้น 2 ราคา 731-821 บาท รถนอนปรับอากาศชั้น 1 ราคา 1,120-1,320 บาท โดยการรถไฟจะยังคงใช้ราคานี้ต่อเนื่องไปอีก 6 เดือน ก่อนจะมีการพิจารณาราคาใหม่อีกครั้ง ซึ่งแม้ว่าราคาอาจจะใกล้เคียงกับสายการบินโลว์คอสต์ แต่ผู้บริหารรถไฟฯ ยืนยันว่า การรถไฟฯ ใช้อัตราค่าโดยสารเดิมและไม่เปลี่ยนแปลงในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวและการให้บริการที่แตกต่างซึ่งเป็นเสน่ห์ของการรถไฟ