วันนี้ (14 พ.ย.2559) นักท่องเที่ยวยังคงไปเที่ยวภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เพื่อกราบพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และนำกระทงมาลอยในสระตะพังทอง โดยไม่มีการจัดงานเผาเทียนเล่นไฟเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา ส่วนที่ จ.พิจิตร ครู และนักศึกษา สถาบันอาชีวะ นำวัสดุธรรมชาติ มาประดิษฐ์ทำกระทง 3,000 ใบ ถวายให้กับวัดเพื่อจำหน่าย ถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เช่นเดียวกับนักเรียนใน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ที่นำกระทงที่ทำขึ้นเองมาลอย และนำไปมอบให้กับวัดในชุมชน ขณะที่วัดจัดกิจกรรมถวายความอาลัยฯ แทนการจัดมหรสพ ส่วนบริเวณชายหาดพัทยา จ.ชลบุรี ผู้นำกระทงทั้งที่ทำจากวัชพืชและขนมปังมาวางขาย ทุกร้านบอกว่า ยอดขายลดลง เนื่องจากอยู่ในช่วงแสดงความอาลัยฯ
ด้านกรมเจ้าท่าร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจความปลอดภัยโป๊ะเทียบเรือ รอบองค์พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ที่คาดว่าจะมีผู้มาลอยกระทงจำนวนมาก ในช่วงค่ำวันนี้ เช่นเดียวกับ จ.สมุทรสงคราม มีการตรวจท่าเทียบเรือ และโป๊ะ ทั้งในแม่น้ำแม่กลอง และลำคลองสาธารณะ ที่คาดว่ามีประชาชนมาลอยกระทง
ส่วนภาคใต้ที่ จ.ระนอง ผู้สูงอายุ และชาวเกาะพยาม ร่วมผลิตกระทงจากวัสดุธรรมชาติ ก่อนนำไปบริจาคให้วัดเกาะพยาม เพื่อนำไปจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทย สร้างรายได้เข้าวัด ขณะที่ริมเขื่อนเจ้าฟ้าบริเวณปากแม่น้ำกระบี่ จ.กระบี่ และสวนศรีเมืองยะลา สันเขื่อนแม่น้ำปัตตานี ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับจัดงานประเพณีการลอยกระทง เจ้าหน้าออกลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะที่ จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือร้านค้าในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ งดขายพลุประทัด ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี
ขณะที่กรุงเทพมหานคร จะเริ่มเก็บกระทงในแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สะพานพระราม 7 ถึงบริเวณวัดโยธินประดิษฐ์ เขตบางนา ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ของวันนี้ โดยนำมาไว้ที่ท่าอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย และบริเวณคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ เขตราษฎร์บูรณะ ก่อนไปส่ง สถานีขนถ่ายมูลฝอยหนองแขม ทั้งนี้ จะคัดแยกกระทงที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ นำไปเป็นวัตถุดิบหมักทำปุ๋ย ส่งไปศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม ส่วนกระทงโฟม จะประสานบริษัท นำไปรีไซเคิล