เปิดรายชื่อนอมินีครอบครองป่าสงวนฯ จ.ระนอง

สิ่งแวดล้อม
16 พ.ย. 59
21:01
2,442
Logo Thai PBS
เปิดรายชื่อนอมินีครอบครองป่าสงวนฯ จ.ระนอง
เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐปิดถนนที่หน่วยงานปกครองท้องถิ่นก่อสร้างบุกรุกแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ อ.ละอุ่น จ.ระนอง ขณะที่การตรวจสอบพบว่ามีกลุ่มนายทุนเข้ายึดครองพื้นที่ป่ากว่า 1,000 ไร่นานกว่า 10 ปี โดยใช้ชื่อของนอมินีอำพราง

ถนนคอนกรีตในซอยพม่าข้าม หมู่ 3 ต.บางพระใต้ อ.ละอุ่น จ.ระนอง ที่ก่อสร้างโดยเทศบาลตำบลละอุ่น ถูกเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 สุราษฎร์ธานี นำแผ่นป้ายประกาศห้ามใช้เส้นทางมาติดตั้ง หลังตรวจสอบพบว่าเป็นการก่อสร้างถนนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จึงอาจเอื้อให้กลุ่มทุนเข้ามาบุกรุกพื้นที่ป่า หลังการสำรวจพบว่าพื้นที่ภายในมีการแผ้วถางเพื่อปลูกปาล์มน้ำมันและยางพาราจำนวนมาก อีกทั้งสภาพพื้นที่มีเพียงบ้านพักชั่วคราวของแรงงานข้ามชาติ

โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ประกาศให้ประชาชนที่เป็นเจ้าของพื้นที่แสดงเอกสารสิทธิ์ในการครอบครอง ซึ่งมีผู้แสดงตัว 4 คน แต่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่บริเวณต้นซอยของถนน แต่ในพื้นที่ป่ากลับไม่มีการยื่นเอกสารสิทธิ์ในการครอบครอง ทำให้ภายในวันที่ 30 พ.ย.2559 เจ้าหน้าที่จะปิดเส้นทางถาวรและจะเข้ารื้อถอนพืชผลอาสินออกจากป่าภายใน 7 วัน รวมถึงเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับหน่วยงานท้องถิ่นและผู้บุกรุกพื้นที่ป่าเป็นรายแปลง พร้อมส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.เอาผิดกับข้าราชการที่กระทำผิดกฎหมาย

รายชื่อของนอมินี เป็นหนึ่งในเอกสารที่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ผู้ที่อ้างว่าอาศัยอยู่ในพื้นที่ป่า แนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "ทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์" ใน อ.ละอุ่น เนื้อที่กว่า 1,200 ไร่ แต่จากการตรวจสอบพบว่าล้วนเป็นรายชื่ออำพราง หรือนอมินีที่ถือครองโดยบุคคลอื่นๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ของกองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 ต้องเร่งตรวจสอบและกันแนวเขตกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

หลังพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อปลูกปาล์มน้ำมันและยางพาราเกือบ 1,000 ไร่ มานานกว่า 10 ปี ซึ่งผู้ที่เข้ามาแสวงหาประโยชน์มีทั้งอดีตข้าราชการ ข้าราชการและเครือญาติ ที่ยึดครองป่าโดยใช้ชื่ออำพราง ซึ่งแม้ว่าชาวบ้านและข้าราชการท้องถิ่นบางคนจะพยายามร้องเรียนแต่ก็ถูกข่มขู่ ทำให้ป่าถูกบุกรุกมากขึ้น

จากข้อมูลของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 ยอมรับว่าสถานการณ์การบุกรุกป่าใน อ.ละอุ่น รุนแรงมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจาก อ.ละอุ่น มีผืนป่าที่สมบูรณ์อย่างมาก โดยการเข้ามาบุกรุกมีทั้งของกลุ่มทุนและข้าราชการที่ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ในการบุกรุกป่า ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องจัดชุดเฝ้าระวังในการรักษาป่าและใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้กระทำผิด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง