วันนี้ (17พ.ย.2559) นายวรวิทย์ รวีนิภาพงศ์ ผอ.โรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บอกว่า หลังงจากปริมาณน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ เพิ่มสูงขึ้นจนเกินระดับกักเก็บปกติเกือบ 70 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 103 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง สาเหตุเกิดจากฝนที่ตกหนักในพื้นที่เหนือเขื่อนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนกว่า 440 ล้านลูกบาศก์เมตร
นายวรวิทย์ บอกว่า ได้เปิดอาคารระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ทั้งหมด 4 บาน โดยจะยกบานประตูระบายน้ำขึ้น 40 เซ็นติเมตร และเว้นระยะห่างระหว่างการเปิดประตูระบายน้ำทั้ง2 บานเป็นเวลา 3- 6 ชั่วโมงเพื่อรักษาความสมดุลของน้ำท้ายเขื่อน และป้องกันน้ำล้นตลิ่งซึ่งการเพิ่มการระบายน้ำออกจากเขื่อนครั้งนี้ ระบายน้ำออกจาก จากเดิมวันละ15 ล้านลูกบาศก์เมตรเป็นวันละ 21 ล้านลูกบาศก์เมตรหรือเพิ่มเป็นวันละ 6 ล้านลูกบาศก์เมตร ตามมติคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัดขอนแก่น
โดยการระบายน้ำในครั้งนี้ มีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการบริการจัดการน้ำ เพื่อประเมินพื้นที่ท้ายเขื่อนที่ได้รับผลกระทบ เพราะอาจจะใช้เวลประมาณ 1 สัปดาห์ หรือจนกว่าระดับน้ำในเขื่อนจะเข้าสู่ภาวะกักเก็บปกติ และประกาศแจ้งเตือนประชาชน ที่อยู่ในที่ลุ่มติดลำน้ำให้เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อป้องกันความเสียหาย พร้อมระบุการระบายน้ำในครั้งนี้ปริมาณน้ำยังอยู่ในร่องน้ำและไม่ล้นตลิ่งซึ่งจะไม่กระทบกับชุมชน
ขณะที่ชาวนาตำบลท่ากระเสริมในอำเภอน้ำพอง ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มเสี่ยงถูกน้ำท่วม เร่งเก็บเกี่ยวข้าว หลังได้รับประกาศแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่ ขณะที่ฝ่ายปกครองอำเภอน้ำพองระดมนำรถเกี่ยวข้าวช่วยเหลือชาวนา ป้องกันนาข้าวกว่า1พันไร่ถูกน้ำท่วม
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ ยังมีน้ำไหลเข้าเขื่อนอย่างต่อเนื่อง แต่มีแนวโน้มลดลง โดยเมื่อวานนี้ (16พ.ย.59) มีน้ำไหลเข้าเขื่อน 40 ล้านลูกบาศก์เมตร และระดับน้ำยังเกินระดับกักเก็บปกติเกือบ70 ล้านลูกบาศก์เมตร