วันนี้ (7 ธ.ค.2559) นายทรัมพ์ พบปะกับ นายมาซาโยชิ ซง ประธานบริหารซอฟท์แบงก์ กรุป คอร์ป บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมและการสื่อสารของญี่ปุ่น ที่อาคารทรัมพ์ ทาวเวอร์ ในนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการจัดตั้งรัฐบาล โดยทรัมพ์เปิดเผยหลังการหารือว่า นายซงเห็นด้วยที่จะทุ่มเม็ดเงิน 50,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.78 ล้านล้านบาท เพื่อลงทุนในภาคธุรกิจของสหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยสร้างงานใหม่อีกถึง 50,000 ตำแหน่ง
ด้านนายซง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า บริษัทซอฟท์แบงก์ กรุป คอร์ป จะสร้างงานในสหรัฐฯ ด้วยการทุ่มเงินลงทุนในภาคธุรกิจสตาร์ทอัพ หรือธุรกิจเกิดใหม่ และเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยการตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นเพราะเขาเห็นว่า ทรัมพ์ผ่อนคลายกฎระเบียบหลายอย่างและต้องการแสดงความยินดีกับทรัมพ์ที่ได้ทำหน้าที่ประธานาธิบดี
นอกจากจะเริ่มขับเคลื่อนเศรษฐกิจแล้ว นายทรัมพ์ยังทวิตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ว่า จะตัดลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ด้วยการยกเลิกสัญญากับบริษัทโบอิ้งในการจัดสร้างเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน ซึ่งเป็นเครื่องบินประจำตำแหน่งของประธานาธิบดี ลำใหม่ เนื่องจากไม่สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ได้ โดยคำประกาศของทรัมพ์ส่งผลให้หุ้นของโบอิ้งร่วงลงกว่าร้อยละ 1 ก่อนจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐฯทำสัญญาไว้กับบริษัทโบอิ้งในการจัดสร้างเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน ลำใหม่อีกอย่างน้อย 2 ลำ เพื่อจะเริ่มนำมาใช้งานในปี 2567