วันนี้( 10 ธ.ค.2559) นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงเกี่ยวกับมาตรการดูแลประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ขณะนี้ได้กำชับให้สำนักงานสาธาร ณสุขจังหวัดเฝ้าระวังโรคฉี่หนู หรือโรคเลปโตสไปโรซีส ซึ่งเชื้อโรคนี้อาจปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้ำขังที่เป็นหลุมบ่อเล็กๆ ซึ่งจะมีปริมาณเชื้อโรคเข้มข้น และเชื้อมีชีวิตอยู่ในน้ำ ดินแฉะๆได้นานหลายวัน มีโอกาสติดต่อมาสู่คนได้สูง โดยเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล รอยถลอกต่างๆที่ขาและเท้า หรือแม้กระทั่งผิวหนังที่อ่อนนุ่มจากการแช่น้ำนานๆ โดยดำเนินการเฝ้าระวังผู้ป่วยในพื้นที่เป็นเวลา 15 วันภายหลังน้ำลดและรณรงค์ให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันโรค เพื่อป้องกันการป่วยและการเสียชีวิต
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข บอกว่า นอกจากนี้ โรคที่ต้องเฝ้าระวังอีกโรคคือ โรคตาแดง ซึ่งเกิดจากการอักเสบของเยื่อบุตา น้ำสกปรกเข้าตา ติดต่อโดยการสัมผัสคลุกคลีกับผู้ป่วยโรคตา แดง โดยจะมีอาการตาแดง เคืองตา น้ำตาไหล เจ็บตา มักมีขี้ตามาก ตาบวม จะเป็นอยู่ประ มาณ 5-14 วัน นอกจากนี้เร่งให้ความรู้ประชาชนกับโรคที่มากับน้ำท่วม เช่น โรคอุจจาระร่วง ไข้หวัดใหญ่ น้ำกัดเท้า เป็นต้น จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ทั้งนี้ จากข้อมูลเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 4 ธันวาคม ทั่วประเทศพบผู้ป่วยจากโรคฉี่หนู 2,083 ราย ในภาคใต้พบผู้ป่วย 610 ราย เสียชีวิต 14 ราย และข้อมูลเฝ้าระวังโรคตาแดงของสำนักระบาดวิทยากรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1มค 2559 - 6 ธค 59 พบผู้ป่วยโรคตาแดงทั่วประเทศ 117,331 ราย ในภาคใต้พบผู้ป่วย 12,890 ราย
