จ่อร้อง ป.ป.ช. - สตง. สอบ กสทช. ปล่อยค่ายมือถือคิดค่าโทรเกินจริง

เศรษฐกิจ
14 ธ.ค. 59
12:51
283
Logo Thai PBS
จ่อร้อง ป.ป.ช. - สตง. สอบ  กสทช. ปล่อยค่ายมือถือคิดค่าโทรเกินจริง
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เตรียมร้อง ป.ป.ช. และ สตง. สัปดาห์หน้า ให้ตรวจสอบ กสทช. เหตุไม่กำกับดูแลปล่อยค่ายมือถือคิดค่าโทรศัพท์เกินจริง ผู้บริโภคเสียหายภาพรวมกว่า 3,200 ล้านบาท

วันนี้ (14 ธ.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน (คอบช.) ได้ติดตามความคืบหน้า กสทช. กรณีการกำกับให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมคิดค่าโทรเป็นวินาทีมาอย่างต่อเนื่อง พบว่า กสทช. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลได้กำหนดเรื่องนี้เป็นเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่ 4G แล้ว แต่ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ การคิดค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังคงมีการปัดเศษเป็นนาทีเช่นเดิม

ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 พ.ย.2559 ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ครั้งที่ 29/2559 ได้พิจารณาเรื่องแนวทางบังคับผู้ให้บริการคิดค่าบริการเสียงตามการใช้งานจริงในหน่วยวินาที โดยเรื่องนี้สืบเนื่องจากที่ประชุม กทค.ครั้งที่ 10/2559 เมื่อ 17 พ.ค.2559 เคยมีมติให้ผู้รับใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ 1800 MHz และ 900 MHz (คลื่น 4G) จะต้องคิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริงเป็นวินาที ทุกรายการส่งเสริมการขาย ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตการให้ใช้คลื่นความถี่ที่กำหนดให้ “ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดให้มีบริการที่เป็นธรรม ซึ่งรวมถึงการกำหนดอัตราค่าบริการที่สมเหตุสมผล ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค มีความชัดเจน และการให้บริการที่มีคุณภาพตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด” โดยมีการกำหนดเงื่อนไขไว้ด้วยว่าต้องคิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริง

อย่างไรก็ดี ภายหลังจาก กทค.มีมติดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) เสนอเรื่องให้ที่ประชุม กทค.พิจารณาทบทวนมติในการประชุมครั้งล่าสุดนี้

ข้อเสนอคือจะมีการกำกับดูแลให้แต่ละบริษัทฯ มีรายการส่งเสริมการขายที่คิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริงเป็นวินาทีไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งเท่านั้น มิใช่คิดในอัตราวินาทีทั้งระบบ

 

ผศ.รุจน์ โกมลบุตร ประธานอนุกรรมการฯ ด้านสื่อสารและโทรคมนาคม คอบช.

ผศ.รุจน์ โกมลบุตร ประธานอนุกรรมการฯ ด้านสื่อสารและโทรคมนาคม คอบช.

ผศ.รุจน์ โกมลบุตร ประธานอนุกรรมการฯ ด้านสื่อสารและโทรคมนาคม คอบช.

 

ผศ.รุจน์ โกมลบุตร ประธานอนุกรรมการฯ ด้านสื่อสารและโทรคมนาคม คอบช.กล่าวว่า มติให้ผู้รับใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ 1800 MHz และ 900 MHz (คลื่น 4G) จะต้องคิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริงเป็นวินาทีทุกรายการส่งเสริมการขาย เป็นเรื่องที่รัฐบาลได้เคยมอบนโยบายชัดเจน ตั้งแต่ต้นปี 2558 ซึ่งตอนนี้ก็ผ่านไปเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่เป็นจริง กสทช. ย่อมทราบดีว่าการเปลี่ยนแปลงมติดังกล่าว ควรพิจารณาถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ

ที่ผ่านมา แม้ กสทช.จะเรียกผู้ให้บริการมาพูดคุยเพื่อกำหนดค่าบริการตามจริง แต่การดำเนินการดังกล่าวไม่ถือเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคจริง เนื่องจากรายการส่งเสริมการขายของแต่ละบริษัทฯ เป็นการผลิตแพคเกจวินาทีที่มีเจตนาทำให้ราคาเฉลี่ยสูงกว่าแพคเกจปัดเศษ จนผู้บริโภคไม่สนใจเลือกไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ( สปช.)

เวลาเราซื้อของแล้วโดนชาวบ้านโกงตาชั่ง เรายังไม่ยอมเลย หรือเวลาไปซื้อของในห้าง ถ้าโดนคิดตังค์เกิน เรายังไม่ยอมเลย หรือเวลาเราไปเติมน้ำมันรถ แม้ราคาหน้าปั๊มจะระบุเป็นลิตร แต่หากเราเติมไม่ครบลิตร เช่น 15.7 ลิตร เราก็จะจ่ายแค่ 15.7 ลิตรตามจริง ไม่มีปั๊มไหนที่จะปัดเศษให้ผู้บริโภคต้องจ่าย 16 ลิตร ซึ่งค่าโทรศัพท์ควรคิดค่าบริการตามการใช้จริงเหมือนกัน” ผศ.รุจน์ ระบุ

ผศ.รุจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะอนุกรรมการฯ จึงเสนอเรื่องให้ คปอช. แจ้งเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) เพื่อตรวจสอบการดำเนินการดังกล่าวของ กสทช. เนื่องจากเลขหมายที่มีการคิดค่าบริการแบบปัดเศษเป็นนาที ไม่ใช่เพียงของผู้บริโภคแต่รวมถึงเลขหมายที่หน่วยงานรัฐต่างๆ ใช้อยู่ด้วย ดังนั้นการแก้ไขมติดังกล่าว นอกจากผู้บริโภคจะเสียประโยชน์แล้ว รัฐยังเป็นผู้เสียหายด้วย จึงต้องมีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างรอบคอบเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของแผ่นดิน

ด้าน น.ส.ชลดา บุญเกษม กรรมการ คอบช. เขตภาคกลาง กล่าวว่า ผู้บริโภคเสียหายและถูกเอาเปรียบมาก เช่น บางรายต้องมีโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เพื่อที่จะดูว่าค่าบริการใกล้จะครบจำนวนเหมาจ่ายแล้วหรือยัง เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย หรือเปลี่ยนไปใช้เครื่องอื่นที่ยังไม่ครบจำนวนนาทีตามแพคเกจ

การที่ กทค.จะมีการทบทวนมติดังกล่าว ถือว่าจะทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้บริโภคและเข้าข่ายการเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างมาก ที่ผ่านมาเครือข่ายผู้บริโภคและหลายภาคส่วนได้เรียกร้องมาโดยตลอดในเรื่องนี้ คอบช. เคยสำรวจโปรวินาทีที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ พบว่าโปรวินาทีที่ออกมามีราคาที่ไม่เป็นธรรม และไม่ได้ตอบสนองเรื่องการไม่ปัดเศษเป็นวินาทีอย่างแท้จริง

กสทช.ต้องกำกับดูแลให้แต่ละบริษัทฯ ปฏิบัติตามให้มีรายการส่งเสริมการขายทุกรายการคิดค่าบริการตามการใช้งานจริงเป็นวินาที หากจะแก้ไขมติให้มีไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งเท่านั้น มิใช่คิดในอัตราวินาทีทั้งระบบ ก็ไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และยังทำให้ผู้บริโภคถูกเอาเปรียบเหมือนเดิม

นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการการสื่อสารมวลชนฯ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ตอบหนังสือ คอบช. ว่า ผู้แทน กสทช. ชี้แจงว่า อยู่ระหว่างพิจารณาเตรียมออกประกาศ กสทช. เรื่อง “การกระทำที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม โดยอาศัยการใช้เครือข่าย หรือการโฆษณาอันมีลักษณะเป็นการค้ากำไรเกินควร หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ พ.ศ...... ” ซึ่งร่างประกาศดังกล่าวก็ไม่ได้มีการระบุเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด

 

 น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค อดีตประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการคุ้มครองผู้บริโภค สภาปฏิรูปแห่งชาติ

น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค อดีตประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการคุ้มครองผู้บริโภค สภาปฏิรูปแห่งชาติ

น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค อดีตประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการคุ้มครองผู้บริโภค สภาปฏิรูปแห่งชาติ

 

ขณะที่ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค อดีตประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการคุ้มครองผู้บริโภค สภาปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันเกือบ 2 ปีแล้ว ทั้งที่เรื่องนี้ได้รับการยืนยันว่าจะมีการปฏิบัติแบบเป็นขั้นตอนและบังคับใช้เป็นการทั่วไปเป็นวินาที กทค. ยังไม่สามารถบังคับให้ผู้รับใบอนุญาตปฏิบัติได้ สปช. ได้ศึกษาเรื่องการปัดเศษค่าโทรเป็นนาที พบว่าค่าโทรศัพท์หากคิดเป็นนาที เมื่อโทรเกิน 1 นาที ก็จะปัดเศษวินาทีให้เป็นหนึ่งนาที

ขณะที่ผู้ประกอบการคิดค่าเชื่อมต่อระหว่างกันตามจริงเป็นวินาที มูลค่าความเสียหายต่อผู้บริโภคไม่น้อยกว่า 3,200 ล้านบาทต่อเดือน เมื่อวันที่ 6 ม.ค.2558 สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มีมติเห็นชอบการกำหนดอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามระยะเวลาการใช้งานที่เป็นจริงโดยคิดเป็นวินาที และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูประเทศก็สนับสนุนการดำเนินการเรื่องนี้ เพื่อให้เป็นการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไม่ให้ถูกผู้ประกอบการธุรกิจบริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เอาเปรียบในเรื่องการคิดค่าบริการ เรื่องการคิดค่าโทรศัพท์ตามจริงเป็นวินาที สะท้อนความบกพร่องของระบบการคุ้มครองได้เป็นอย่างดี ต้องถือว่า กสทช. มีภูมิคุ้มกันมาก หากเปรียบเทียบกับหน่วยงานอื่นๆ ที่รัฐบาลยุบและยกเลิก แต่ขณะที่ กสทช. ยังทำงานคุ้มครองผู้บริโภคน้อยตามปกติแต่ก็อยู่ได้อย่างสุขสบาย น.ส.สารี กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง