รายงานของอินเตอร์เนชันแนลไครซิสกรุ๊ป (ไอซีจี) ระบุว่า จากการสัมภาษณ์สมาชิกของกลุ่มติดอาวุธโรฮิงญา 4 คน ในรัฐยะไข่ของเมียนมา และอีก 2 คนที่อยู่นอกเมียนมา ได้ข้อมูลว่า กลุ่มติดอาวุธที่ก่อเหตุโจมตีตำรวจเมียนมาบริเวณชายแดนด้านที่ติดกับบังกลาเทศ เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา คือ กลุ่มฮาราคาห์ อัล-ยาคิน ซึ่งก่อตั้งขึ้นหลังเหตุปะทะกันระหว่างชาวพุทธกับชาวมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ เมื่อปี 2555 ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คน และชาวมุสลิมโรฮิงญาต้องไร้ที่อยู่อาศัยอีกประมาณ 140,000 คน
กลุ่มดังกล่าวก่อตั้งโดยชาวโรฮิงญาที่ต่อสู้ในพื้นที่ขัดแย้งหลายประเทศ รวมถึงปากีสถานและอัฟกานิสถาน โดยทำหน้าที่ฝึกฝนชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ให้เรียนรู้วิธีการใช้อาวุธ เทคนิคการรบแบบกองโจร รวมถึงการใช้ระเบิดและระเบิดแสวงเครื่อง ผู้นำของกลุ่มนี้ คือ นายอตา อุลลาห์ มีเชื้อสายโรฮิงญา เกิดในนครการาจี ปากีสถาน และเติบโตที่นครเมกกะ ซาอุดิอาระเบีย
รัฐบาลเมียนมา ระบุว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธโรฮิงญา ทำให้ตำรวจเมียนมาเสียชีวิต 9 นาย และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้รัฐบาลเมียนมาเริ่มต้นปฏิบัติการกวาดล้างชาวมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่
สื่อของทางการเมียนมา รายงานว่า ปฏิบัติการกวาดล้างของกองทัพเมียนมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 86 คน ขณะที่องค์การสหประชาชาติ ประเมินว่า มีชาวโรฮิงญาประมาณ 27,000 คน ต้องอพยพข้ามพรมแดนเข้าไปในบังกลาเทศ