ปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ8 จังหวัดทำให้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องบูรณาการทำงานเพื่อเตรียมรับมือและป้องกันไม่ให้เกิดหมอกควันที่ส่งผลต่อสุขภาพ และการท่องเที่ยวในภาคเหนือในช่วงปลายปีจนถึงเดือนเมษายน2560
วานนี้ (15 ธ.ค.2559) พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือทส. กล่าวว่า มีข้อสรุปจากการประชุมแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันพื้นที่ภาคเหนือ 8 จังหวัด ว่า ในปี 2560 จะลดการเกิดจุดความร้อนหรือ Hotspot)ในพื้นที่ภาคเหนือให้ได้ร้อยละ 30 โดยเฉพาะพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ ที่มักเกิดไฟป่าบ่อยและเป็นวงกว้างในทุกปี
รัฐมนตรีทส.บอกว่า จากเดิมปีนี้สามารถลดจุดความร้อนลงได้ร้อยละ 20 เพื่อช่วยการเกิดไฟป่าหมอกควัน เพื่อไม่ให้กระทบการขึ้น-ลงของเครื่องบินได้ และไม่เกิดมลพิษกระทบสุขภาพประชาชน ที่สำคัญปีหน้าจะเพิ่มอีก 2 มาตรการ คือ ให้สังคมช่วยกันประนามคนจุดไฟในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อให้สังคมไทยได้รับรู้ว่าคนจุดไฟเป็นคนไม่ดีและทำลายทรัพยากรของประเทศชาติอย่างมหาศาล และสังคมต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปปฏิบัติการดับไฟป่า เพื่อให้มีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่แทนการถูกตำหนิว่าปฏิบัติงานไม่ทันท่วงที
พล.อ.สุรศักดิ์ บอกว่า ประชาชน 1 คนจุดไฟเผาป่า แต่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ดับไฟมากถึง 100 นาย ขณะที่ประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่สูงเริ่มมีความเข้าใจการเผาเศษวัสดุทางการเกษตรได้ส่งผลกระทบให้เกิดมลพิษและเกิดไฟป่าลุกลามในหลายพื้นที่
โดยปี 2560 จะกำหนดมาตรการเข้มงวดการปฏิบัติงานของผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์ทั่วประ เทศในการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ด้วยการใช้พื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนเป็นตัวชี้วัดการทำงานว่าสามารถควบคุมการเกิดจุดความร้อนได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนการแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าข้ามแดน ระหว่างวันที่ 12-14 มกราคม 2560 จะมีการประชุมแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าข้ามแดน 5 ประเทศ เพื่อวางแผนรับมือหมอกควันข้ามแดนอย่างเข้มงวดขึ้น
" จิสด้า”ใช้ดาวเทียมติดตามไฟป่า
ด้าน ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการจิสด้า บอกว่า จิสด้าได้สนับสนุนข้อมูลภูมิสารสนเทศ และภาพถ่ายจากดาวเทียมกว่า 10 ดวง ในการติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน รวมถึงให้บริการผ่านระบบบริการสนับสนุน การติดตาม ป้องกัน ไฟป่า และการบุกรุกป่า ผ่าน http://gistdaportal.gistda.or.th ซึ่งระบบดังกล่าวจะช่วยเพิ่มช่องทางการวิเคราะห์และติดตามพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาไฟป่า และหมอกควันได้อย่างรวดเร็ว และลดพื้นที่เสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.อานนท์ บอกว่า จิสด้า จะร่วมวางแผนและติดตามสถานการณ์ไฟป่า หมอกควันได้อย่างทันท่วงที โดยส่งทีมนักวิชาการและฐานข้อมูลประจำศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ระดับจังหวัด ในเขตภาคเหนือที่เป็นพื้นที่เกิดเหตุ ตลอดช่วงเดือนมกราคม – เมษายน เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ เข้าถึงข้อมูลภูมิสารสนเทศได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงการเกิดไฟป่าจากการใช้แบบจำลองที่พัฒนาขึ้นมาคาดการณ์ไฟป่าล่วงหน้า
นอกจากนี้ จิสด้ายังใช้ข้อมูลจากดาวเทียมในการวิเคราะห์พื้นที่เผาใหม่ (Burnt scar) เพื่อนำไปประเมินพื้นที่การเกษตรรอการเผา และพื้นที่ป่าที่ยังไม่ได้เผาไหม้ ในระดับตำบลอีกทางหนึ่ง
