ตร.เตรียมดำเนินคดีแฟนฟุตบอลจุดพลุแฟร์ในสนามตามมาตรา 397

อาชญากรรม
19 ธ.ค. 59
12:34
206
Logo Thai PBS
ตร.เตรียมดำเนินคดีแฟนฟุตบอลจุดพลุแฟร์ในสนามตามมาตรา 397
ตำรวจเตรียมดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุจุดพลุแฟร์ในสนาม เกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอล "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016" มาดำเนินคดี ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 397

วันนี้ (19 ธ.ค.2559) ตำรวจกำลังหามาตรการเพื่อดำเนินคดีกับแฟนบอล ซึ่งจุดพลุแฟลร์ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 นัดชิงชนะเลิศ ที่ทีมชาติไทยเอาชนะอินโดนีเซีย และคว้าแชมป์ในรายการนี้ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยดูรายละเอียดจากทั้ง พ.ร.บ.พลุดอกไม้ไฟ ไปจนถึงการขัดคำสั่งประกาศ คสช. และหากทราบตัวผู้ก่อเหตุสามารถดำเนินคดีตามมาตรา 397 ซึ่งเป็นความผิดลหุโทษ มีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 10,000 บาท แต่ในส่วนของการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ถ้าไม่มีการยิงขึ้นฟ้าก็ไม่เข้าข่ายความผิด

พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยว่า จากการสืบสวนขณะนี้พอจะทราบแล้วว่าผู้ก่อเหตุว่าเป็นกลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์ ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นห่วงในเรื่องชื่อเสียงของประเทศ สำหรับแฟนบอลกลุ่มดังกล่าวมีจำนวนมากและนั่งอยู่ในโซนเดียวกันใส่เสื้อประจำกลุ่ม แต่ในวันก่อเหตุมีเพียงไม่กี่คนที่ถือพลุ ทั้งนี้ ในวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดประทัดไข่ก๊อกได้จำนวนมาก แต่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าประทัดดังกล่าวเป็นของกลุ่มเชียร์ใด

ขณะที่นายพาทิศ ศุภะพงษ์ โฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า ขณะนี้รู้ตัวกลุ่มและบุคคลที่ก่อเหตุแล้ว และเตรียมประสานข้อมูลให้ตำรวจดำเนินคดี พร้อมยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการฝ่าฝืนกฎด้านความปลอดภัยของเอเอฟซีอย่างชัดเจน ซึ่งอาจถูกปรับเงิน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,700,000 บาท ไปจนถึงการสั่งห้ามเล่นในบ้าน ซึ่งทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมที่จะชี้แจงกับสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ก่อนหน้านี้ ในการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี ยู 16 ปี ในเดือนกันยายน ระหว่างทีมชาติไทยกับมาเลเซีย เกิดเหตุแฟนบอลจุดพลุแฟร์ในสนามมาแล้ว ทำให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ โดนลงโทษไปแล้วด้วยการปรับ 11,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 390,000 บาท ซึ่งเอเอฟซีเตือนล่วงหน้าแล้วว่าหากเกิดเหตุอีกจะโดนโทษหนักกว่าเดิม

สำหรับมาตรการในการควบคุมดูแลความปลอดภัยและป้องกันควบคุมแฟนบอลหัวรุนแรงไม่ให้ก่อเหตุนำอุปกรณ์การเชียร์ผิดกฎเข้าสนามฟุตบอล คาดว่าจะมีการหารือ พล.ต.ต.นันทชาติ จะเข้าพบนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เพื่อหามาตรการป้องกันต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง