วันนี้ (21 ธ.ค.2559) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงข้อคิดเห็นหลังจากคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยเนื้อหาเบื้องต้นของร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งว่า สำนักงาน กกต.กำลังทำความเห็นอย่างเป็นทางการส่งไปยังคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อทักท้วงการจัดตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งแทน กกต.จังหวัด โดยในทางปฏิบัตินั้น นายสมชัย เชื่อว่าจะเกิดปัญหาทั้งกรณีการสรรหาบุคคลมารับหน้าที่ การกำหนดลักษณะงานที่สวนทางกับข้อบัญญัติให้เป็นงานประจำ กกต. และเหตุผลที่ กรธ. อ้างอิงว่าไม่ต้องการให้เกิดการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง ก็ไม่มีใครพิสูจน์ได้ เช่นเดียวกับกรณี กกต.จังหวัด ที่ถูกกล่าวหาว่าไม่เป็นกลาง เอนเอียงและฝักใฝ่ฝ่ายการเมือง ซึ่งทั้งหมดคือการคาดหวัง
ทั้งนี้ กกต.จะทำข้อเสนอยืนยันรูปแบบ กกต.จังหวัด ไว้เช่นเดิม แต่อาจจะไม่มีเงินเดือนประจำ มีเพียงเบี้ยประชุมเพื่อลดภาระงบประมาณ และวางหลักเกณฑ์กำหนดที่มาให้เกิดความหลากหลาย โดยเฉพาะจากภาคประชาสังคมในพื้นที่ แต่หากการทักท้วงนี้ไม่เป็นผล กกต.ก็พร้อมปฏิบัติตามร่างกฎหมายที่ กรธ.จัดทำขึ้น
วานนี้ (20 ธ.ค.) นายนรชิต สิงหเสนีย์ โฆษก กรธ.เปิดเผยการปรับแก้ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง โดยเงื่อนไขผู้ร่วมจัดตั้งพรรคการเมือง 500 คน การปรับลดทุนร่วมจัดตั้งพรรคเหลือคนละไม่น้อยกว่า 1,000 บาท แต่ไม่เกิน 300,000 บาท และการกำหนดให้จำนวนสมาชิกพรรค 10,000 คนภายใน 4 ปี กำหนดให้เป็นการส่งเรื่องให้ศาล และแม้จะคงโทษสูงสูดไว้ที่การประหารชีวิต แต่ได้ปรับแก้บทกำหนดโทษ กรณีการซื้อขายตำแหน่ง มีโทษจำคุก 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต