ชายวัย 44 ปีนหลังคาอาคารในทำเนียบรัฐบาล ร้องนายกฯ ช่วยแก้หนี้นอกระบบ

สังคม
27 ธ.ค. 59
10:02
569
Logo Thai PBS
ชายวัย 44 ปีนหลังคาอาคารในทำเนียบรัฐบาล ร้องนายกฯ ช่วยแก้หนี้นอกระบบ
วันนี้ (27 ธ.ค.2559) เวลา 08.05 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล เกิดเหตุระทึกเมื่อมีชายคนหนึ่งปีนขึ้นไปบนหลังคาอาคารไปรษณีย์และธนาคารออมสินสาขาทำเนียบรัฐบาลริมประตู 4 ด้าน ถ.พิษณุโลก พร้อมตะโกนเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วยเหลือจากการเป็นหนี้นอกระบบ

เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมเพื่อให้ชายคนดังกล่าวลงมานานด้านล่างอยู่นานประมาณ 1 ชั่วโมงแต่ไม่เป็นผล เขายังคงเดินไปมาบนหลังคาพร้อมกับตะโกนและชูป้ายที่เขียนข้อความว่า "ผมมีความหวังและความศรัทธา ท่านนายกรัฐมนตรี ผมต้องการความเป็นธรรม" นอกจากนี้ยังได้จุดประทัดยักษ์โยนลงมาด้านล่างทั้งหมด 5 ลูก ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจนำรถกระเช้ามาพร้อมกับส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นไปบนหลังคาของธนาคารออมสินและนำตัวชายคนดังกล่าวลงมาในรถกระเช้าอย่างปลอดภัย และนำตัวไปสอบปากคำเพิ่มที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล

จาการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าชายคนดังกล่าวชื่อ นายเฉลิม สอนนนฐี อายุ 44 ปี เป็นชาว จ.น่าน เดินทางมาทำเนียบรัฐบาลและก่อเหตุดังกล่าวเพื่อร้องขอความช่วยเหลือจากการที่เขาเป็นหนี้นอกระบบ ที่เกิดจากการกู้เพื่อไปรับเหมาก่อสร้าง แล้วเกิดปัญหาขึ้นไม่สามารถเบิกเงินได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายเฉลิมเคยมาที่ทำเนียบรัฐบาลมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 1 ต.ค.2558 และใช้น้ำมันเบนซินราดตัวเอง พร้อมใช้ไฟแช็คคู่จะเผาตัวที่บริเวณประตู 4 แต่เจ้าหน้าที่เกลี้ยกล่อมให้เขาสงบสติอารมณ์ได้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์ แต่พบว่าเป็นเรื่องการตรวจรับงานไม่ผ่านซึ่งเป็นเรื่องระหว่างเอกชน

นายจิระชัย มูลทองโร่ย ปลัดประจําสํานักนายกรัฐมนตรีได้มาตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุ โดยยืนยันว่าก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการประสานลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาให้หลายเรื่องแล้ว และยังไม่ทราบว่าครั้งนี้นายเฉลิมต้องการเรียกร้องอะไรเพิ่มเติม พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดว่าชายคนดังกล่าวขึ้นไปได้อย่างไร

พล.ต.ต.นพดล เผือกโสมณ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่ประสานงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ หลังที่นายเฉลิมได้ลงจากรถกระเช้าว่า ประทัดขนาดใหญ่ที่อยู่ในกระเป๋าไปตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง พร้อมระบุว่าอาจมีการทำบัญชีประวัติรายชื่อผู้มาก่อเหตุในทำเนียบรัฐบาล หลังเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้หลายครั้ง ส่วนเรืองแผนการรักษาความปลอดภัยเป็นเรื่องของกองบัญชาการตำรวจสันติบาลและกองบัญชาการตำรวจนครบาลไปหารือกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง