ถนนกำแพงเพชร 3 ที่มีรถสัญจรไปมา กลายเป็นเส้นแบ่งระหว่างสวนจตุจักร และสวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ทำให้ขาดการเชื่อมต่อของผู้ที่มาใช้บริการสวนสาธารณะ แทนที่จะมีระยะทางการออกกำลังกายมากขึ้นและไม่ต้องเสี่ยงอันตรายต่อการข้ามถนน
กรุงเทพมหานครจึงมีแนวคิดรวมสวนสาธารณะทั้ง 2 แห่ง และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ซึ่งมีพื้นที่ติดกัน ภายใต้ชื่อ "อุทยานสวนจตุจักร" ตามกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อ 15 ปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ สำนักสิ่งแวดล้อมได้ศึกษารูปแบบการเชื่อมโยงสวน 3 แห่ง สร้างเป็นสกายวอร์ค หรืออุโมงค์ทางลอด แต่เมื่อพิจารณาแล้วพบว่า ต้องใช้งบประมาณที่สูงในการล้อมต้นไม้มากกว่า 900 ต้น
ล่าสุด ปรับรูปแบบเน้นความกลมกลืนธรรมชาติ ไม่กระทบต่อกายภาพของสวน และเกิดประ โยชน์ต่อการใช้พื้นที่ร่วมกันดำเนินการตามสภาพที่มีอยู่ เนื่องจากสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์และสวนรถไฟ มีสะพานข้ามคลองเชื่อมอยู่แล้ว ซึ่งอาจจะปรับปรุงขยายเพิ่มขึ้น หรือปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์
ปัจจุบันสวนสาธารณะทั้ง 3 แห่ง มีประชาชนมาใช้บริการจำนวนมาก จุดเด่นของสวนจตุจักร คือประชาชนชื่นชอบมาออกกำลังกาย, สวนรถไฟ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับครอบครัว และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาธรรมชาติและพันธุ์ไม้ต่างๆ เมื่อนำจุดเด่นมารวมกันจะกลายเป็นพื้นที่ปอดใจกลางเมืองขนาดใหญ่ พื้นที่รวม 727 ไร่
เบื้องต้นจะเสนอรูปแบบการเชื่อมโยงสวนสาธารณะให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พิจารณาประมาณกลางเดือนมกราคมนี้ ตั้งเป้าดำเนินโครงการนี้ให้แล้วเสร็จภายในปี 2561 ใช้งบประมาณไม่เกิน 5,000,000 บาท