"ยุติธรรม"ยื่นมือช่วย "ครูจอมทรัพย์" เร่งคลี่ปมทะเบียนรถ

อาชญากรรม
17 ม.ค. 60
19:23
2,842
Logo Thai PBS
"ยุติธรรม"ยื่นมือช่วย "ครูจอมทรัพย์" เร่งคลี่ปมทะเบียนรถ
พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รับคุ้มครองครูจอมทรัพย์ และพยานปากสำคัญคดีขับรถชนคนตายจ.นครพนม ขออุบรายละเอียดคดี รอผลการพิจารณาไต่สวนของศาลรอบใหม่ 8-10 ก.พ.นี้ ขณะที่ยังต้องแกะรอยปมทะเบียนรถ บค 56

กรณีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครูใน จ.สกลนคร ถูกตัดสินจำคุก 3 ปี 2 เดือน ในคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ที่ จ.นครพนม แต่ภายหลังมีหลักฐานใหม่เชื่อได้ว่าไม่ใช่ผู้กระทำผิดตัวจริง จนศาลจังหวัดนครพนมมีคำสั่งไต่สวนคดีอีกครั้ง ขณะที่ตำรวจออกมายืนยันว่ามีหลักฐานสำคัญชี้ชัดว่ามีการรับสารภาพแทนครู

ล่าสุดไทยพีบีเอส ลงพื้นที่ตรวจสอบเอกสารและผู้ครอบครองรถ กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว ทะเบียน บค 56 มุกดาหาร ซึ่งนายสับ วาปี อ้างเป็นเจ้าของรถ และคนขับรถชน นายเหลือ พ่อบำรุง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2548

จากการตรวจสอบจากสำนักงานขนส่งจังหวัดมุกดาหาร พบว่ารถคันดังกล่าวถูกระงับการใช้ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2552 เนื่องจากขาดต่อทะเบียนอายุเกิน 3 ปี และขายซากไปแล้วให้ร้านรับซื้อของเก่าในราคา 20,000 บาท

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจนครพนม พบรถกระบะ ทะเบียน บค 56 มุกดาหาร ที่นายสับ วาปี ออกมาอ้างว่าเป็นคนขับไปเกิดเหตุแล้ว ถูกขายต่อไปในจังหวัดอุบลราชธานี ก่อนวันเกิดเหตุ คือ 11 มีนาคม 2548 โดยเจ้าของรถคนใหม่ ยืนยันไม่เคยขับหรือให้ใครยืมรถมาใช้ใน จ.นครพนม

ส่วนรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าสีน้ำตาล ทะเบียน บค 56 สกลนคร ซึ่งเป็นรถยนต์ที่นางจอมทรัพย์ เป็นผู้ครอบครองในวันเกิดเหตุ โดยจากการสอบถามญาติของนางจอมทรัพย์ ได้ให้ข้อมูลว่าทั้งนางจอมทรัพย์ และนายประพัฒน์ แสนเมืองโคตร เจ้าของรถไม่อยู่ในพื้นที่ คาดว่าจะขายรถยนต์คันดังกล่าวเพื่อนำเงินไปซื้อรถเก๋ง เพราะล่าสุดพบว่านายประพัฒน์ ขับรถเก๋งกลับมาบ้าน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้

พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า นางจอมทรัพย์อยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูล รายละเอียดของคดีกับสื่อมวลชน ส่วนแนวทางช่วยเหลือนางจอมทรัพย์ เป็นไปตามการยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมตามปกติ เหมือนผู้ยื่นเรื่องทั่วไป ทางคดีขณะนี้ทนายของกระทรวงยุติธรรม เข้าไปช่วยสำนวนทางคดี และหาหลักฐานใหม่ ก่อนเข้าสู่กระบวนการศาล

เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูลของผู้ร้องยืนยันมีหลักฐานว่านางจอมทรัพย์อาจไม่ใช่ผู้กระทำผิด อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกฝ่ายรอผลการพิจารณาไต่สวนของศาลที่นัดอีกครั้งวันที่ 8-10 ก.พ.นี้ ก่อนว่าจะให้มีการรื้อคดีใหม่หรือไม่ โดยยังเชื่อมั่นในพยานหลักฐานของนางจอมทรัพย์

ขณะที่ พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวถึงหลักฐานที่เชื่อได้ว่ามีคนรับสารภาพแทนครู โดยเมื่อปี 2556 มีผู้อ้างว่าเป็นคนขับรถชนตัวจริงชื่อ นายเสริฐ เดินทางเข้ามาพบตำรวจ แต่ภายหลังครูจอมทรัพย์ กลับบอกว่าคนขับตัวจริงชื่อนายสับ ทำให้ตำรวจสงสัย และตรวจสอบพบว่าทำกันเป็นขบวนการมานานแล้ว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง