เร่งซ่อมเครื่องเฝ้าระวังน้ำท่วม-ดินถล่ม อ.พะโต๊ะ หลังน้ำซัดพัง

ภัยพิบัติ
19 ม.ค. 60
16:08
218
Logo Thai PBS
เร่งซ่อมเครื่องเฝ้าระวังน้ำท่วม-ดินถล่ม อ.พะโต๊ะ หลังน้ำซัดพัง
สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 9 ยืนยันเครื่องเฝ้าระวังน้ำท่วม ดินถล่ม เสียหายหลังน้ำซัดพัง เร่งประสานเจ้าหน้าที่เข้าซ่อมแซ่มเร็วที่สุด แนะประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ติดตามการแจ้งเตือนจากภาครัฐใกล้ชิด

 จากกรณีเครื่องเตือนภัยหมู่บ้านที่ใช้แจ้งเตือนระดับน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณกลางสะพาน อบต.พะโต๊ะ ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เครื่องวัดระดับความลึกของน้ำ และเครื่องวัดปริมาณน้ำฝนได้รับความเสียหาย 

วันนี้ (19 ม.ค.2560)  นายศักดิ์ชัย ตันติวิวัฒน์ ผู้อำนวยการส่วนอุทกวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ สำนักงานทรัพยากรน้ำ ภาค 9 กล่าวว่า สถานีวัดปริมาณน้ำบริเวณองค์การบริหารส่วนตำบลพะโต๊ะ จ.ชุมพร ได้รับความเสียหาย เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากถูกน้ำในคลองทะลักท่วมสะพาน ทำให้สถานีวัดปริมาณน้ำที่อยู่บริเวณกลางสะพานได้รับความเสียหาย โดยหัวอ่านความลึกของน้ำหัก ไม่สามารถใช้งานได้ เจ้าหน้าที่จึงใช้แผ่นวัดระดับน้ำ (Staff Gauge) มาติดตั้งแทนเป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ ได้แจ้งปัญหาไปยังกรมทรัพยากรน้ำแล้ว คาดว่าจะสามารถดำเนินการซ่อมแซมให้แล้วเสร็จในเร็วๆ นี้

สำหรับการเฝ้าระวังฝนตกและดินถล่มในพื้นที่ จ.ขุมพร นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีควมพร้อมเสมอ โดยที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุการณ์ฝนตก หรือพื้นที่ไหนมีความเสี่ยงฝนตกหนัก จะมีการแจ้งเตือนกันผ่านช่องทางไลน์ โทรศัพท์มือถือ ของกลุ่มสมาชิกในหมู่บ้าน ซึ่งมี สมาชิก อบต. ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านที่เป็นเครือข่าย มีเหตุการณ์จะสามารถแจ้งเตือนไปยังพื้นที่เสี่ยงได้ทันที 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีฝนตก ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ก็อย่านิ่งนอนใจให้ติดตามการแจ้งเตือนข่าวสารจากเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สิน

ขณะที่ นายมงคล หลักเมือง ผู้อำนวยการสำนักวิจัย พัฒนาและอุทกวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานความเสียหายดังกล่าว โดยปกติเครื่องเฝ้าระวังและเตือนภัยพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม กรมทรัพยากรน้ำ มีการทำงานโดยการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำในพื้นที่แต่ละพื้นที่ เช่น แม่น้ำ ลำคลอง ซึ่งจะติดตั้งอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม น้ำหลาก ก็อาจเกิดความเสียหายได้ เบื้องต้นจะเร่งประสานเจ้าหน้าที่แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นและทำการซ่อมแซมต่อไป

อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุการณ์ฝนตกหนักตั้งแต่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ทางอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำได้กำชับเจ้าหน้าที่ สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 และ 10 ที่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ สำรวจความเสียหายสถานีวัดน้ำ ฝาย หรืออ่างเก็บน้ำต่างๆ หลังจากสถานการณ์เข้าสู้ภาวะปกติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง