ขยะทั่วไทยตกค้างแค่ 10 ล้านตัน-หนักสุด "นครศรีธรรมราช-ฉะเชิงเทรา "เกิน 1 ล้านตัน

สิ่งแวดล้อม
19 ม.ค. 60
17:22
7,316
Logo Thai PBS
ขยะทั่วไทยตกค้างแค่ 10 ล้านตัน-หนักสุด "นครศรีธรรมราช-ฉะเชิงเทรา "เกิน 1 ล้านตัน
กรมควบคุมมลพิษ สรุปสถานการณ์มลพิษประเทศไทยปี 2559 ภาพรวมดีขึ้นทั้งหมด ปริมาณขยะตกค้างลดลงจากเดิมกว่า 27 ล้านตัน กำจัดเหลือเกินครึ่งเพียง 10 ล้านตันเศษ ส่วนคุณภาพแม่น้ำสายหลักดีขึ้นร้อยละ 43 น้ำทะเลชายฝั่งท่องเที่ยวทั้งหาดป่าตอง-เกาะพะงัน-เกาะพีพี ดีขึ้น

วันนี้ (19 ม.ค.2560) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวถึงสถานการณ์มลพิษประเทศไทย ปี 2559 ว่า ภาพรวมมลพิษปีที่ผ่านมาดีขึ้น ปัจจัยหลักมาจากการที่ประชาชนให้ความร่วมมืออย่างดีในการจัดการ โดยเฉพาะการคัดแยกขยะควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในประเทศมากขึ้น และระบบจัดการขยะในท้องถิ่นดีขึ้น ซึ่งขยะทั่วประเทศมีจำนวน 27.04 ล้านตัน หรือประมาณ 74,073 ตันต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ประมาณ 190,000 ตัน คิดเป็นร้อยละ 0.7

โดยเป็นขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร 4.20 ล้านตัน และใน 76 จังหวัด 22.84 ล้านตัน ปีทีผ่านมาคนไทยผลิตขยะเฉลี่ย 1.14 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน มากกว่าปี 2558 ที่ผลิตขยะราว 1.13 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน

แผนที่ไทยจังหวัดไหนขยะเพิ่ม-ขยะลด

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมสามารถกำจัดขยะได้แล้ว 20.36 ล้านตัน เหลือขยะตกค้างเพียง 10.13 ล้านตัน มี 2 จังหวัดที่ปริมาณขยะตกค้างเกิน 1 ล้านตันคือ นครศรีธรรมราช และฉะเชิงเทรา ถือว่าลดลงจากปริมาณขยะ ในปี 2557 พบว่า 5 จังหวัดที่มีปริมาณขยะเกิน 1 ล้านตันขึ้นไป ได้แก่ ชลบุรี สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา และสมุทรปราการ

ส่วนกลุ่มจังหวัดที่ขยะตกค้างตั้งแต่ 500,000 ตัน ถึง 1 ล้านตัน ได้แก่ กาญจนบุรี ชลบุรี สุราษฎร์ธานี สงขลา เพชรบุรี พังงา กระบี่ สตูล ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรปราการ เพชรบูรณ์ นครราชสีมา ร้อยเอ็ด สระแก้ว ชลบุรีท ระยอง

กลุ่มที่ 3 ขยะตกค้าง 100,000-500,000 ตัน ได้แก่ ขอนแก่น พระนครศรีอยุธยา ส่วนกลุ่มที่ 4 ขยะตกค้าง 50,000-100,000 ตัน มี 10 จังหวัด เช่น ปัตตานี นราธิวาส ชุมพร สุพรรณบุรี นครนายก ปทุมธานี ตาก เลย นครพนม

และกลุ่มที่ 5 ขยะตกค้าง 101-100,000 ตัน มี 25 จังหวัด เช่น ตรัง พัทลุง บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ สกลนคร อุดรธานี ชัยภูมิ บึงกาฬ กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุโขทัย ลำปาง แพร่ พะเยา น่าน เชียงใหม่ เชียงราย

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ บอกว่า สถานการณ์ของเสียอันตรายในปี 2559 มีของเสียอันตรายเกิดขึ้นทั่วประเทศ 3,512,069 ตัน จำแนกออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ของเสียอันตรายจากชุมชน กากอุตสาหกรรม และมูลฝอยติดเชื้อ โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 393,070 ตัน คิดเป็นร้อยละ 65 และที่เกิดขึ้นในครัวเรือน 213,249 ตัน ร้อยละ 35 เช่น แบตเตอรี่ กระป๋องสเปรย์ ถ่านไฟฉาย


ส่วนกากอุตสาหกรรมอันตรายมีปริมาณ 2,850,000 ตัน โดย 1,880,000 ตัน หรือร้อยละ 65 ได้รับการจัดการอย่างไม่ถูกต้อง ขณะที่มูลฝอยติดเชื้อมีปริมาณ 55,750 ตัน ที่เกิดจากโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน คลินิก สถานพยาบาล สถานพยาบาลสัตว์ ห้องปฏิบัติการเชื้ออันตราย ซึ่งได้รับการจัดการอย่างถูกต้องร้อยละ 75 โดยการเผาในเตาเผามูลฝอยติดเชื้อ

ทั้งนี้การจัดการขยะ กรมควบคุมมลพิษ จะดำเนินการตามแผนแม่บทการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของประเทศ พ.ศ. 2559 – 2564 เพื่อขับเคลื่อนการจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายของประเทศที่ต้องให้ทุกภาคส่วนร่วมดำเนินการทั้งการลด การเกิด จากแหล่งกำเนิด การคัดแยกขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายชุมชน เพิ่มศักยภาพการเก็บขนและกำจัด 

คุณภาพแม่น้ำ 59 สาย และน้ำทะเลดีขึ้นเกินครึ่ง 

คุณภาพน้ำแม่น้ำสายหลัก 59 สาย และแหล่งน้ำนิ่ง 6 แห่ง อยู่ในเกณฑ์พอใช้ พบว่า อยู่ในเกณฑ์ดีร้อยละ 43 อยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมร้อยละ 34 และ ไม่มีแหล่งน้ำที่อยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมมากร้อยละ 23 ซึ่งภาพรวมคุณภาพน้ำรอบ 10 ปี ระหว่างปี 2550 – 2559 แหล่งน้ำที่อยู่ในเกณฑ์ดีขยับตัวเพิ่มขึ้นและที่อยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมลดน้อยลง และไม่พบแหล่งน้ำที่เสื่อมโทรมมากมาตั้งแต่ปี 2555 เช่น อูน แควน้อย ตาปีตอนบน สงคราม พังราดตอนล่าง ตรัง ปัตตานีตอนบน แควใหญ่ หนองหาร ท่าจีนตอนบน ลำชี แหล่งน้ำที่มีปัญหาคุณภาพน้ำ คือ เจ้าพระยาตอนล่าง พังราดตอนบน ลำตะคองตอนล่าง ลพบุรี ท่าจีนตอนล่าง ระยอง กวง บึงบอระเพ็ด สะแกกรัง กว๊านพะเยา

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวถึงคุณภาพน้ำทะเลชายฝั่งว่า ตลอดความยาวของชายฝั่งทะเลอ่าวไทยตอนใน อ่าวไทยฝั่งตะวันออก อ่าวไทยฝั่งตะวันตก และชายฝั่งอันดามันรวม 2,800 กิโลเมตร ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดีร้อยละ 59 เกณฑ์พอใช้ร้อยละ 31 เกณฑ์เสื่อมโทรมร้อยละ 7 เกณฑ์เสื่อมโทรมมากร้อยละ 2 และเริ่มพบคุณภาพน้ำเกณฑ์ดีมากร้อยละ 1 ซึ่งแนวโน้มคุณภาพน้ำรอบ 10 ปี ระหว่างปี 2550 - 2559 ภาพรวมเริ่มดีขึ้น ยกเว้นอ่าวไทยตอนในบริเวณปากแม่น้ำสายหลักยังคงเสื่อมโทรม คือ เจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง

ส่วนชายหาดท่องเที่ยวคุณภาพดี คือ อ่าวท้องตาปาน เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี หาดสมิหลา จังหวัดสงขลา หาดยาว จังหวัดตรัง หาดนพรัตน์ธารา จังหวัดกระบี่ หาดกะรน หาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง