จากกรณีกระทรวงสาธารณสุข สั่งสาธารณสุขจังหวัดเข้าตรวจสอบธรรมสถานอโรคยา เดอ สารภี จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า สามารถรักษาโรคมะเร็ง และไตวายขั้นสุดท้ายให้เป็นปกติได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
วันนี้ (2 ก.พ.2560) น.ส.แก้มหอม ภูแก้วสวนแก้ว เจ้าของธรรมสถานอโรคยา เดอ สารภี ระบุว่า ตนเองสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ด้านการแพทย์ทางเลือกจากประเทศสหรัฐฯ มีความรู้ความชำนาญด้านสมุนไพร และใช้การรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ ซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่ใช้ทุกศาสตร์ทุกแขนงประกอบกัน ทำให้ผู้เข้ารับการรักษามีสุขภาพกายและจิตใจดีขึ้น ส่งผลให้หายจากอาการป่วย
ขณะที่ ร.อ.ภูรีวรรธน์ โชคเกิด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ (สสจ.) เปิดเผยว่า สถานประกอบการดังกล่าว เป็นคลินิกที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และมีการจำหน่ายยาสมุนไพรหลายชนิด ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนรวบรวมหลักฐาน หากพบว่าเข้าข่ายกระทำความผิดก็จะต้องถูกดำเนินการทางกฎหมาย
ทั้งนี้ ภายหลังสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่เข้าตรวจสอบเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้แจ้งให้สถานประกอบการดังกล่าวทราบว่า ไม่สามารถใช้คำนำหน้าผู้ให้การรักษาว่า "แพทย์" และห้ามใช้คำว่า "รักษา" เบื้องต้นทางสถานประกอบการระบุว่า ได้ยกเลิกประกาศรับการรักษาทุกกรณี เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว
ขณะที่ นพ.วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เปิดเผยว่า สั่งการให้สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ ตรวจสอบใน 2 ประเด็น คือ การโฆษณาว่าสามารถรักษาโรคไตวายและโรคมะเร็ง ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีหลักวิชาการใดในโลกยืนยัน และการใช้ข้อความว่า เป็นรายแรกของโลก ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่ามีคุณภาพดีกว่า หรือสูงกว่าแห่งอื่น ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล