กรณีมีข่าวในโซเชียลว่า อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เปิดจุดท่องเที่ยวใหม่ “ม่อนน้องแกะ” บริเวณดอยผาตั้ง ซึ่งบริเวณนั้นมีดอกนางพญาเสือโคร่งกำลังบานสวยงาม พร้อมทั้งระบุว่ามีการเปิดขายอาหารให้แกะที่นำมาเลี้ยง จนทำให้มีเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการนำสัตว์เลี้ยงขึ้นไปในเขตอุทยานแห่งชาตินั้น
วันนี้ (2 ก.พ.2560) นายรุ่ง หิรัญวงษ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน ทางอุทยานฯดอยอินทนนท์ไม่ได้เป็นคนเลี้ยงแกะ หรือนำแกะ มาโชว์ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปจนถูกตั้งฉายาว่า ม่อนน้องแกะ ตามที่ปรากฎข่าวในโซเชียลและมีการโปรโมททางเฟชบุ๊กว่าเป็นจุดเช็กอินใหม่ แต่ยอมรับว่ามีแกะฝูงนี้ ซึ่งมีประมาณ100 ตัวเป็นของโครงการหลวง ที่เลี้ยงมานานหลายปีแล้ว
ภาพที่นักท่องเที่ยวถ่ายรูป และนำไปโปรโมท และบอกปากต่อปาก เป็นแกะของโครงการหลวงที่คนเลี้ยงแกะ จะต้องพาเดินผ่านมาทางถนนบ้านค่าย ไปยังโซนทุ่งหญ้าที่อยู่ห่างจากโครงการหลวงประมาณ 1 กิโลเมตร และมีการขออนุญาตใช้พื้นที่เพื่อทำโครงการสาธิตแล้วโดยจุดที่แกะจะเดินผ่านเรือประทับแรมผาตั้ง ซึ่งมีต้นนางพญาเสือโคร่งสีชมพูบานพื้นที่ประ มาณ 4-5 ไร่บานสะพรั่งอยู่ และแกะฝูงนี้จะเดินผ่านมาตลอดประมาณ 9 โมงเช้าและต้อนกลับในช่วงเวลา 14.00 น.ซึ่งเป็นแบบนี้มานานแล้ว
แต่หลังจากมีข่าวคลาดเคลื่อนว่าอุทยาน เปิดขายอาหาร และให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกับฝูงแกะ และต้นนางพญาเสือโคร่งทำให้เกิดผลกระทบ เพราะโดยกฎระเบียบมีกำหนดไว้แล้วว่าห้ามนำสัตว์เลี้ยงขึ้นไปในเขตอุทยานฯ แต่กรณีนี้เป็นการขอใช้พื้นที่โครงการหลวง และไมได้มีคอกแกะบนอุทยานฯ
นายรุ่ง บอกว่า เพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้น มีการประสานไปยังโครงการหลวงแล้วว่า จะไม่ให้แกะเดินผ่านเส้นทางผาตั้ง เพราะขณะนี้พอมีข่าวปรากฎว่ายิ่งทำให้นักท่องเที่ยวอยากมาถ่ายรูปแกะกับทุ่งหญ้าและต้นนางพญาเสือโคร่งกันมากขึ้น โดยสั่งห้ามตั้งแต่วานนี้ (1 ก.พ.) รวมทั้งได้รายงานเรื่องนี้กับ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชไปแล้ว ส่วนจะห้ามเลี้ยงแกะเลย คงไม่ได้ เพราะเป็นอำนาจของโครงการหลวงและการเลี้ยงแกะเพื่อสาธิตให้กับชาวบ้าน เพื่อสร้างรายได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีระเบียบกำหนดไว้ชัดเจนว่าในเขตอุทยานแห่งชาติ ห้ามนำหรือปล่อยปศุสัตว์เข้าไป และห้ามนำสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์พาหนะเข้าไป เว้นแตจะได้ปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด โดยอนุมัติของรัฐมนตรี
