นายกฯ ผลักดันตั้งศูนย์ข้อมูลน้ำแห่งชาติ

Logo Thai PBS
นายกฯ ผลักดันตั้งศูนย์ข้อมูลน้ำแห่งชาติ
นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมศูนย์เมขลา กรมทรัพยากรน้ำ เพื่อผลักดันตั้งศูนย์ข้อมูลน้ำแห่งชาติ เชื่อมโยงข้อมูลของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาน้ำ

วันนี้ (3 ก.พ.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของศูนย์เมขลา กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการจัดทำศูนย์ข้อมูลน้ำแห่งชาติ เพื่อให้มีศูนย์กลางรวบรวมข้อมูลด้านทรัพยากรน้ำที่เป็นเอกภาพ และทุกหน่วยงานสามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว

นายวรศาสน์ อภัยพงษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า กรมทรัพยากรน้ำ มีแผนพัฒนาศูนย์เมขลาเป็นศูนย์ข้อมูลน้ำแห่งชาติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบการเฝ้าระวังและเตือนภัยที่เกิดจากน้ำ และรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยการพัฒนาระบบแผนที่ GIS ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารและสนับสนุนการตัดสินใจ ควบคู่กับการขับเคลื่อนไปสู่ Thailand 4.0 โดยพัฒนาระบบเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูลของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาชนและหน่วยงานต่างๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลได้สะดวก และรัฐบาลสามารถมีทางเลือกในการตัดสินและสั่งการแก้ปัญหาได้ทันที

ทั้งนี้ สามารถพัฒนาเป็นศูนย์ข้อมูลน้ำแห่งชาติได้ทันทีที่เชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 35 หน่วยงาน โดยมีแบบจำลองของลุ่มน้ำยมภายในเดือนมิถุนายน 2560 ปรับปรุงโครงสร้างและระบบในส่วนต่างๆ และขยายผลให้มีแบบจำลองสนับสนุนการตัดสินใจครบทั้ง 25 ลุ่มน้ำ ภายในเดือนพฤษภาคม 2561 เพื่อให้มีข้อมูลและระบบตัดสินใจที่เป็นเอกภาพสำหรับการจัดการน้ำของประเทศครอบคลุมทุกมิติ คือ น้ำท่วม จัดสรรน้ำ ติดตามคุณภาพน้ำ ภัยพิบัติ และพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน

นายวรศาสน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ศูนย์ข้อมูลน้ำแห่งชาติ ช่วยให้เกิดประโยชน์ใน 4 ด้าน คือ 1.ระบบปฏิบัติการครอบคลุม 25 ลุ่มน้ำ ประกอบด้วย ระบบคาดการณ์น้ำและเตือนภัย ระบบการกักเก็บน้ำที่เหมาะสม และควบคุมการระบายน้ำให้เหมาะสม 2.แผนบริหารจัดการของทุกลุ่มน้ำ ประกอบด้วย คาดการณ์น้ำตลอดฤดูกาล กำหนดพื้นที่เพาะปลูก กำหนดพื้นที่ขุดลอกแม่น้ำลำคลอง และการจัดสรรน้ำ 3.การกำหนดยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย การกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำ การกำหนดผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน กำหนดเครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำ และการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 4.การสื่อสารเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้กับประชาชน ที่เข้าถึงข้อมูลแบบ Real Time สามารถคาดการณ์ และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทันที ผ่านช่องทางต่างๆ และแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง