"ดีเอสไอ" แจงบังคับใช้กฎหมายตรวจค้น "วัดพระธรรมกาย"

อาชญากรรม
16 ก.พ. 60
10:09
341
Logo Thai PBS
 "ดีเอสไอ" แจงบังคับใช้กฎหมายตรวจค้น "วัดพระธรรมกาย"
กรมสอบสวนคดีพิเศษ แจงเหตุต้องใช้ มาตรา 44 เข้าปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อนำ พระธัมมชโย เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย เบื้องต้นขอเจรจา ด้านนายองอาจ เข้ามอบตัวแล้ว

หลังจากมีคำสั่งนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ประกาศใช้อำนาจตามมาตรา 44 เข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา มีคำสั่งเตรียมปฏิบัติการจากทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ทันที เป็นคำสั่งฉบับที่ 1 เตรียมลงพื้นที่เข้าตรวจค้น เพื่อกดดันให้พระธรรมชโยออกมามอบตัว

หนังสือจาก ดีเอสไอ ระบุ คำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 5/2560 ที่ 1/2560 เรื่องการปฏิบัติการภายในเขตพื้นที่การควบคุม เพื่อให้การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ภายในพื้นที่ควบคุมเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

อาศัยอำนาจตามความข้อ 2 แห่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย บริเวณพื้นที่วัดพระธรรมกาย มีคำสั่งจากอธิบดี ดีเอสไอ โดยห้ามผู้ไม่ใช่พนักงาน กระทำการดังนี้ ห้ามเข้า-ออกพื้นที่วัดโดยเด็ดขาด เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ห้ามพกพาอาวุธ เครื่องกระสุน หรือวัตถุระเบิด ห้ามใช้เครื่องกระจายเสียงในพื้นที่ควบคุม

 



ห้ามขัดขวางยั่วยุ หรือทำการใด ๆ ขัดขวางการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ ห้ามปลุกระดม ปลุกปั่น หรือก่อกวนเจ้าหน้าที่ ห้ามใช้อากาศยานไร้คนขับในพื้นที่ควบคุม ห้ามใช้อุปกรณ์ส่งสัญญาณหรือลำแสง หรือวิธีการใดรบกวนเจ้าหน้าที่ ห้ามจอดยานพาหนะบนทางสาธารณะในพื้นที่ควบคุม เว้นได้รับอนุญาต ห้ามถ่ายภาพ หรือบันทึกเสียงเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ควบคุม เว้นได้รับอนุญาต หรือ เป็นสื่อมวลชนที่ได้รับอนุญาตแล้ว

ผู้ใดขัดขวาง มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับสั่ง ณ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 พันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 5/2560

วันนี้ (16 ก.พ.2560) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และพล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช  ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมกันแถลงความจำเป็นที่จะต้องใช้กฎหมายพิเศษ หรือ มาตรา 44 ในการเข้าบังคับใช้กฎหมายกับวัดพระธรรมกาย ส่วนกำลังตำรวจ ทหาร ดีเอสไอ ที่ใช้ทั้งหมดกว่า 3,000 นาย ก็เพื่อรักษาความเรียบร้อยของเหตุการณ์ รวมทั้งประเด็นที่นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายที่เข้ามอบตัวแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา

ด้าน พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ขณะนี้นายองอาจ ซึ่งถูกออกหมายจับในคดีอั้งยี่ซ่องโจรนั้น ได้เดินทางเข้ามอบตัวแล้วในช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งทางพนักงานสอบ สวน.สภ.คลองหลวง ได้อนุญาตให้ประกันตัวออกไป  ขณะเดียวกันทางตำรวจมีการประสานงานกับดีเอสไอตลอดเวลาเพื่อป้องกันเหตุมือที่ 3 สำหรับผู้ที่ขัดขวางเจ้าพนักงาน หรือใช้ความรุนแรง ทางเจ้าหน้าที่จะพูดคุยไปตามขั้นตอนหน้างานก่อน จะไม่มีการปะทะหรือใช้อาวุธเด็ดขาด และจะทำต่อเนื่องตลอดทังวันจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง