หนุนเริ่มใหม่ "อีเอชไอเอ"โรงไฟฟ้ากระบี่-ชี้ของเดิมบกพร่องขั้นตอนกม.

ความคืบหน้ากรณีเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน และประชาชนที่ปักหลักคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ยอมยุติการชุมนุม หลังจากรัฐบาลประกาศว่าจะเริ่มต้นทำรายงานผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (อีเอชไอเอ) ก็ต้องเริ่มต้นทำกันใหม่ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับร่วมกัน

พล.อ.ประวิตร แจงไม่ถอยโรงไฟฟ้า

วันนี้(20 ก.พ.2560) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ กรณีรายงานอีเอชไอเอโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร โดยย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้ถอย แต่เห็นว่าโครงการนี้ยังต้องมีการทำรายงานสิ่งแวดล้อมใหม่ อะไรที่ทำได้ หรือไม่ทำไม่ได้ ค่อยว่ากัน ส่วนที่บอกว่ารัฐบาลถอย เพราะเป็นห่วงว่าจะมีการเมืองเข้ามาแทรกแซงในการชุมนุมนั้น ยืนยันว่า ไม่มีถอยอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างยังต้องทำตามกฎหมาย อะไรที่เมื่อร่วมมือกันได้ ก็ทำ อย่างที่แกนนำทั้งหมดถูกปล่อยตัวก็กลับ พอกลับทุกอย่างก็จบ

นักวิชาการหนุนเริ่มใหม่ “อีเอชไอเอ”

ด้านนายธีรพงษ์ สันติภพ นักวิชาการสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงขั้นตอนการทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ) บอกว่า เห็นด้วยถ้ามีการยกเลิกรายงานฉบับเก่าทั้งหมด ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเคยดำเนินการไว้ 2 ส่วนคือโรงไฟฟ้ากระบี่ส่วนต่อขยาย และโครงการท่าเทียบเรือคลองรั้ว โดยต้องเริ่มต้นกระบวนการทำรายงานอีไอเอ และอีเอชไอเอใหม่ทั้งหมด เนื่องจากกระบวนการเปิดรับฟังความเห็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่ครบถ้วน ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ตั้งโครงการไม้ได้ถูกเชิญมาสะท้อนปัญหา หรือผลกระทบที่กังวล ทำให้เกิดการประท้วงจากนักอนุรักษ์และชาวบ้านมาตลอดตั้งแต่ปี 2558 ดังนั้นจึงถือว่ารายงานที่เคยเสนอมา จึงขาดความสมบูรณ์ และสนับสนุนให้ทำการศึกษาใหม่ทั้งหมด โดยเชื่อว่าจะลดความขัดแย้งลง และมีข้อมูลที่รอบด้าน

เช่นเดียวกับ รศ.เรณู เวชรัชต์พิมล อดีตกรรมการไตรภาคี ศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน บอกว่า ค่อนข้างพอใจที่รัฐบาลประกาศว่าให้ยกเลิกรายงานสิ่งแวดล้อมฉบับเก่า เพราะถูกทำขึ้นโดยไม่เป็นไปตามกฎหมายสิทธิชุมชน เห็นว่าควรจะต้องเริ่มกระบวนบวนการใหม่ตั้งแต่ต้น เพราะถ้ายังยื้อต่อจะเพิ่มความขัดย้งและฟ้องร้องไม่จบเช่นกรณีเหมืองแร่ทองคำ โดยย้ำว่าไม่ควรแค่แก้ข้อที่ไม่สมบูรณ์เท่านั้น เพราะมีหลายประเด็น เช่น กรณีการไม่ศึกษาข้อมูลผลกระทบทางด้านสุขภาพก่อนมีโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน การขาดการศึกษาผลกระทบต่อพื้นที่ช่ามน้ำภายใต้การเป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม เป็นต้น โดยหนุนให้ตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาเพื่อให้เปิดความเป็นธรรมและมีส่วนร่วม

เครือข่ายเปอร์มาตามาส ยันค้านต่อเนื่อง

ความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักอนุรักษ์ในพื้นที่หลายกลุ่ม โดย นายดิเรก เหมนคร ผู้ประสานงาน เครือข่ายประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ปกป้องสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อสันติภาพ หรือ เปอร์มา ตามาส บอกว่า ยืนยันว่า จะคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินอย่างต่อเนื่อง ด้วยข้อมูลทางวิชาการ และทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ทางเครือข่าย จะดำเนินการมาต่อสู้ด้วยข้อมูลทางวิชาการ ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ

ขณะที่เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน เรียกร้องให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเร่งปลดป้ายหน้าสนามบิน เพราะ อาจสร้างเข้าผิดคิดว่า คนกระบี่ทั้งหมดให้การสนับสนุนโครงการ เช่นเดียวกับชาวบ้านแหลมหิน จ.กระบี่ ที่เกิดวิตกกังวลว่า หลังจากนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จะเร่งเดินหน้าทำมวลชนในพื้นที่ จนสร้างความขัดแย้งระหว่าางฝ่ายสนับสนุนกับฝ่ายคัดค้านดครงการมากยิ่งขึ้น