วิเคราะห์แนวโน้มความรุนแรง หลังพูดคุยสันติสุขเสนอเขตพื้นที่ปลอดภัย

ภูมิภาค
1 มี.ค. 60
10:48
749
Logo Thai PBS
วิเคราะห์แนวโน้มความรุนแรง หลังพูดคุยสันติสุขเสนอเขตพื้นที่ปลอดภัย
แม้การพูดคุยสันติสุขจะได้ข้อสรุปชัดเจนในการเสนอเขตพื้นที่เซฟตี้โซน 5 เขต ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็ยังมีความพยายามก่อเหตุรุนแรงต่อเนื่อง โดยในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ระเบิดในรถยนต์ได้ 2 ครั้ง ทำให้ทหารและตำรวจ ต้องเพิ่มการดูแลพื้น

แม้จะรอดชีวิตอย่างปาฎิหาริย์แต่สำหรับนายอับดุลเลาะห์ เจ๊ะฮะ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลโฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ก็ยังหวาดหวั่น หลังถูกผู้ก่อเหตุเข้ามาจับมัดมือมัดเท้า และใช้ปืนจี้ศีรษะพร้อมเพื่อนอีก 2 คน ก่อนจะเผาอาคาร รถพยาบาล และปล้นรถยนต์ของ อบต.ไปประกอบการระเบิดน้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม แต่เจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้ทัน ทำให้วันนี้ อบต.โฆษิต ยังต้องปิดทำการชั่วคราว

ไม่แตกต่างไปจากวินาทีที่เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดต้องเข้าเก็บกู้ระเบิดน้ำหนักประมาณ 80 กิโลกรัม ในรถยนต์กระบะที่นำมาจอดทิ้งไว้ ใกล้ฐานปฎิบัติการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 433 อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวานนี้ หลังผู้ก่อเหตุได้ปล้นรถของนายกาจพน และ นางทิตาถา ภูววิมล สองสามีภรรยา มาประกอบระเบิด ซึ่งความพยายามก่อเหตุรุนแรงต่อเนื่องโดยเฉพาะเหตุระเบิดในรถยนต์ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มข้นใน 7 หัวเมืองทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการเฝ้าระวังรถที่ถูกโจรกรรม

ผลการพูดคุยสันติสุขระหว่างทางการไทยและกลุ่มมาราปาตานีซึ่งได้ข้อตกลง กำหนดเขตพื้นที่ปลอดภัย หรือเซฟตี้โซน ใน 5 เขตของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แบ่งเป็นปัตตานี 1 เขต ยะลา 2 เขต และนราธิวาส 2 เขต ในห้วงระยะเวลาทดลอง 3 เดือน เป็นความพยายามเดินหน้ากระบวนการพูดคุยสันติสุข ท่ามกลางเหตุความรุนแรง ที่ยังคงเกิดขึ้น

ในมุมมองของ ผศ.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ เห็นว่า การเกิดขึ้นของความรุนแรงไม่ใช้เรื่องเกินความคาดหมาย เพราะยังมีกลุ่มผู้คิดต่าง ผู้เสียผลประโยชน์รวมถึงภัยแทรกซ้อนที่ยังกดทับพื้นที่ ทำให้การสร้างพื้นที่ปลอดภัย จำเป็นต้องมีคณะกรรมการกลางเข้าทำหน้าที่ตรวจสอบเหตุรุนแรงในเซฟตี้โซนเพื่อสร้างความโปร่งใส โดยให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมเป็นคณะกรรมการ

อย่างไรก็ตามเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทำให้วันนี้ เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจความมั่นคงต่างๆ ต้องเพิ่มการดูแลอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการตรวจสอบยานพาหนะต้องสงสัย และคุมเข้มพื้นอ่อนไหว หรือเขตเศรษฐกิจ รวมถึงขยายการดูแลเป้าหมายอ่อนแอให้ครอบคลุมมากขึ้น

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง