วันนี้ (3มี.ค.2560) นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ และโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือกฟผ. กล่าวว่า หลังจากพล.อ.ประ ยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งยกเลิกรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือ EHIAโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้ว ซึ่งได้รับหนังสือจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.)แล้ว โดยในวันที่ 9 มี.ค.นี้ กฟผ.เตรียมหารือกับ สผ.ถึงแนวทางการปฎิบัติ เนื่องจากต้องมีการจัดทำรายงานฉบับใหม่
“ ขั้นตอนในการดำเนินการ ต้องให้สผ.เป็นผู้กำหนด โดยจะต้องยึดหลักเกณฑ์และวิธีการ ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ยังคง ยืนยันที่ตั้งโครงการ และท่าเรือคงเหมือนเดิม แต่การศึกษาทางสิ่งแวดล้อม ผลกระทบ น่าจะศึกษาเพิ่มเติม อย่างกว้างขวาง แต่คงไม่มีการเปลี่ยนขนาด หรือที่ตั้ง”
นายสหรัฐ กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนทำรายงานฉบับใหม่ การมีกรรมการไตรภาคี เข้ามาร่วมในขั้นตอน ค.1 ค 2. และ ค.3 เป็นช่องทางที่ชัดเจน เพราะขั้นตอนนี้เป็นกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ที่สามารถร่วมเสนอความเห็นได้โดยตรง แต่ข้อเสนอ ที่จะให้มีคนกลางเข้ามาร่วมพิจารณาในการเลือกบริษัทที่ปรึกษา ขณะนี้กฎกระทรวงยังไม่อนุญาต ซึ่งหากจะให้มีคนกลางต้องมีการแก้กฎหมายเพื่อเปิดช่องให้คนกลางเข้ามาได้
“ถ้าประกาศกฎกระทรวงยังไม่ได้แก้ไข ก็ต้องกลับมาทำตามกฎกระทรวงเดิม ถ้าไม่แก้ กฟผ.ก็ต้องไปจ้างที่ปรึกษาที่ขึ้นทะเบียนกับสผ. แต่ถ้าแก้แล้ว ให้ไปจ้างคนอื่นที่เป็นกลาง กฟผ.ก็พร้อมทำตาม แต่ก็ต้องได้มาตรฐานที่กระทรวงกำหนดด้วย ไม่ใช่ใครก็ได้ เพราะเรื่องนี้ต้องอาศัยบุคคลที่มีประสบการณ์ด้านนี้ด้วย” นายสหรัฐกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายงานทั้ง 2 ฉบับ กฟผ. ว่าจ้างบริษัทแอร์เซฟ จำกัด ทำรายงาน EHIA ในโครงการโรงไฟฟ้ากระบี่ส่วนขยาย ที่ ตำบลปกาสัย อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ และว่าจ้างบริษัท ทีมคอนซัลติ้งเอ็นจิเนียริ่งแอน แมเนจเมนท์ จำกัด ทำรายงาน EIA โครงการท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้ว ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ และได้ส่งรายงานต่อสผ. เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2557 จากนั้นคณะกรรมการผู้ชำ นาญการหรือ คชก.ได้พิจารณา และมีมติให้กฟผ.ชี้แจง โดยส่งลับมาที่กฟผ. เมื่อเดือนมี.ค.2558 โดยให้ชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมทั้ง 2 โครงการรวม 338 ข้อ
