รัฐบาลเดินหน้าพัฒนาสามหลี่ยมเศรษฐกิจชายแดนใต้

การเมือง
5 มี.ค. 60
12:26
294
Logo Thai PBS
รัฐบาลเดินหน้าพัฒนาสามหลี่ยมเศรษฐกิจชายแดนใต้
รัฐบาลเดินหน้าพัฒนาสามเหลี่ยมเศรษฐกิจชายแดนใต้ ตั้งเป้ายกระดับคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่ ดันเศรษฐกิจแต่ละจังหวัดปี 60 ขยายตัวมากกว่า 2,000 ล้านบาท ย้ำแก้ปัญหาความไม่สงบต้องมองหลายมิติ

วันนี้ (5 มี.ค.2560) พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าผลักดันโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้ายกระดับคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่และผลักดันให้เศรษฐกิจแต่ละจังหวัด ปี 2560 ขยายตัวมากกว่า 2,000 ล้านบาท ช่วยสร้างอานิสงส์แก่พื้นที่อำเภอใกล้เคียง

“รัฐบาลเร่งสร้างโรงไฟฟ้าชุมชนอย่างน้อย 2 โรงงาน ที่ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งจะพัฒนาเป็นเมืองต้นแบบการพัฒนาเพื่อพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน โดยผลิตไฟฟ้าด้วยเชื้อเพลิงชีวมวล น้ำมันดีเซล หรือพลังน้ำ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่เชื่อมโยงกับอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง อาทิ หมู่บ้านไก่เบตง หมู่บ้านปลากือเลาะห์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านคน สร้างรายได้ 2,500 ล้านบาท และเตรียมเปิดท่าอากาศยานแห่งใหม่ต้นปี 2562

ส่วนที่ อ.หนองจิก ปัตตานี ได้สนับสนุนให้เกษตรกรทำเกษตรเชิงคู่ เช่น ปลูกข้าวคู่กับปาล์มน้ำมัน หรือปศุสัตว์ สนับสนุนให้เกษตรกรพัฒนาเป็น Smart Farmer สร้าง SMEs เกษตรยุคใหม่ แปรรูปสินค้าเกษตรเป็นผลิตภัณฑ์ ก้าวสู่การเป็นเมืองต้นแบบเกษตรอุตสาหกรรมก้าวหน้าผสมผสาน

สำหรับ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมืองต้นแบบการค้าชายแดนระหว่างประเทศ ได้นำระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วยให้บริการตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากร และกำลังพิจารณามาตรการทางภาษี เช่น กำหนดให้เป็นเขตปลอดอากร หรือสินค้าปลอดภาษีอากร กระตุ้นการซื้อขาย 4,500 ล้านบาทต่อปี

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เล็งเห็นว่า พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีศักยภาพสูง เนื่องจากมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจและทรัพยากรที่ดี จึงสมควรส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างสูงสุด ภายใต้ความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างผสมผสานลงตัว

“ท่านนายกฯ ย้ำว่า การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ต้องทำหลายมิติ โดยเฉพาะการพัฒนาความเจริญทางเศรษฐกิจ ยกระดับการศึกษา เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ถูกชักจูงไปในทางที่ผิด พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่นำแนวทางประชารัฐไปประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของคนในท้องถิ่น”

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

-
ข่าวที่เกี่ยวข้อง