ดีเอสไอพบเงินกว่า 10 ล้านโอนผ่านพระสงฆ์โยงการเคลื่อนไหวต่างจังหวัด

อาชญากรรม
5 มี.ค. 60
20:07
1,471
Logo Thai PBS
ดีเอสไอพบเงินกว่า 10 ล้านโอนผ่านพระสงฆ์โยงการเคลื่อนไหวต่างจังหวัด
รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบเงินกว่า 10 ล้านบาท โอนผ่านพระสงฆ์ที่เคลื่อนไหว เชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มพระสงฆ์หลายจังหวัด /ขณะที่ดีเอสไอ คุมตัวนักเคลื่อนไหวทางการเมืองมาสอบ หลังปรากฏตัวที่ตลาดกลางคลองหลวง


วันนี้ (5 มี.ค.2560) เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และทหารควบคุมตัว นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ ฟอร์ด เส้นทางสีแดง นักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง มาสอบสวน ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 เนื่องจากพบว่า นายอนุรักษ์ ไปปรากฎตัวอยู่ที่ตลาดกลางคลองหลวงเมื่อมาถึง นายอนุรักษ์ ถูกนำตัวขึ้นไปบนอาคาร โดยนายอนุรักษ์ อ้างว่า ไม่ทราบสาเหตุที่ถูกนำตัวมาสอบสวน เพราะส่วนตัวเดินทางมาทำบุญตามปกติเท่านั้น

นายอนุรักษ์ เปิดเผยกับสื่อมวลชนหลังให้ปากคำกับฝ่ายกฏหมายนาน 2 ชั่วโมงว่า ดีเอสไอมีคำสั่งห้ามเข้ามาในพื้นที่ควบคุมและปล่อยให้กลับบ้าน โดยไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา แต่ส่วนตัวยืนยัน มาทำบุญกับพระสงฆ์ พร้อมนำเสื้อที่ทำเองมาแจกจ่าย จำนวน 100 ตัว ซึ่งส่วนตัวมองว่า การมาทำบุญ ไม่ใช่การปลุกระดม ตามที่เจ้าหน้าที่ เตือน จึงไม่รับปากว่า จากนี้จะไม่กลับเข้ามาในพื้นที่อีก

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ดีเอสไออยู่ระหว่างตรวจสอบเงินจำนวนกว่า 10 ล้านบาท ที่โอนผ่านมายังบัญชีของพระเสถียร คำบ่อ 1 ในพระสงฆ์และสามเณร รวม 11 รูป ที่ถูกควบคุมตัวได้จากตลาดป้าเช็ง เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยพบว่ามีการเบิกจ่ายเงินในบัญชีหมุนเวียนวันละเกือบ 10,000 บาท ซึ่งยังไม่ทราบต้นทางของเงินจำนวนนี้ว่า โอนมาจากที่ใดแต่พบว่า มีความเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มพระสงฆ์หลายจังหวัด รวมถึงการนัดเคลื่อนไหวของพระสงฆ์จาก จ.อุบลราชธานี ด้วย

ส่วนกรณี น.ส.ศรวรรณ ศิริสุนทรินท์ หรือ ป้าเช็ง ได้ติดต่อเข้าพบฝ่ายกฎหมายในวันที่ 9 มี.ค. เวลา 10.00 น.ตามหมายเรียก ซึ่งฝ่ายกฎหมาย มีข้อมูลบางที่ต้องสอบสวน น.ส.ศรวรรณ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

สำหรับนายอนุรักษ์ เจนตวนิช หรือ ฟอร์ด เส้นทางสีแดง ที่ถูกควบคุมตัวมาที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 หลังเจ้าหน้าที่สอบปากคำ ได้ออกคำสั่งห้ามเข้าพื้นที่ควบคุมพิเศษ และหากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายจะดำเนินคดีย้อนหลัง

ส่วนกรณีที่มีการขุดแนวป้องกัน หรือ บังเกอร์ ทางเข้าอาคารบุญรักษา วัดพระธรรมกาย ฝ่ายการข่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายก็จะดำเนินคดี เพราะในพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นพื้นที่ควบคุมตามคำสั่ง คสช. ซึ่งข้อมูลในบริเวณนั้นเชื่อว่าฝ่ายการข่าวเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งมั่วสุม หรือ เป็นสถานที่ในการใช้กระทำความผิด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง