กรมอุตุฯ แจงข่าวลือ “คลื่นความร้อน” ไม่เป็นความจริง – ระบุมีพายุฤดูร้อน 14-19 มี.ค.

สังคม
14 มี.ค. 60
11:44
3,106
Logo Thai PBS
กรมอุตุฯ แจงข่าวลือ “คลื่นความร้อน” ไม่เป็นความจริง – ระบุมีพายุฤดูร้อน 14-19 มี.ค.
กรมอุตุนิยมวิทยา เร่งชี้แจงหลังสื่อสังคมออนไลน์ส่งต่อข้อมูลเรื่องคลื่นความร้อนในประเทศไทยว่า วันที่ 20-22 มีนาคมนี้ อุณหภูมิจะสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ส่งผลให้เกิดอาการลมแดดถึงขั้นเสียชีวิต ระบุไม่เป็นความจริง มีเพียงปรากฏการณ์อีควิน็อกซ์เกิดขึ้น

วันนี้ (14 มี.ค.2560) สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ออกประกาศชี้แจงข่าวลือ เรื่องคลื่นความร้อน หรือ ฮีตเวฟ (Heat Wave) บริเวณประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ช่วงวันที่ 20-22 มีนาคมนี้ ซึ่งจะส่งผลให้อุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส อันเนื่องจากปรากฏการณ์อีควิน็อกซ์และจะเสี่ยงทำให้ประชาชนเป็นลมแดด หรือ ฮีตสโตรกรุนแรงถึงแก่ชีวิต ตามที่ส่งต่อผ่านสื่อสังคมออนไลน์นั้นไม่เป็นความจริง พร้อมอธิบายว่าปรากฏการอีควิน็อกซ์ เป็นวันที่ดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับบริเวณเส้นศูนย์สูตร ทำให้กลางวันเท่ากับกลางคืน เกิดขึ้น ในช่วงวันที่ 20 หรือ 21 มีนาคมของทุกปีอยู่แล้ว และไม่ได้เป็นสาเหตุให้เกิดคลื่นความร้อนแต่อย่างใด
ขณะที่อาการของลมแดด หรือ ฮีทสโตรก สามารถเกิดขึ้นในช่วงที่มีอากาศร้อนจัด ส่งผลโดยตรงต่อผู้ป่วย ผู้สูงวัย เด็ก ผู้ที่ทำงานหรือประกอบกิจกรรมกลางแจ้ง จึงขอให้กลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ดูแลสุขภาพ หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งนานๆ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อน บริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 3 ระบุว่า ช่วงวันที่ 14-19 มีนาคม เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาถึงประเทศจีนตอนใต้ถึงเวียดนามตอนบน และจะแผ่เข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้ ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศเมียนมา เคลื่อนปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน

ส่งผลให้เกิดพายุฤดูร้อน ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่ โดยช่วงวันที่ 14-15 มีนาคม จะกระทบกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากนั้นช่วงวันที่ 16-19 บริเวณที่เกิดพายุฤดูร้อนจะขยายพื้นที่ครอบคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและภาคกลาง ซึ่งจะทำให้อากาศคลายความร้อนลงด้วย

จึงเตือนประชาชนในบริเวณดังกล่าว หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่และป้ายโฆษณาที่ไทม่แข็งแรง ขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนองในช่วงดังกล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง