"พล.อ.ประวิตร" เชื่อตรวจยึดอาวุธเครือข่าย "โกตี๋" โยงแผนลอบทำร้าย

อาชญากรรม
19 มี.ค. 60
18:15
252
Logo Thai PBS
"พล.อ.ประวิตร" เชื่อตรวจยึดอาวุธเครือข่าย "โกตี๋" โยงแผนลอบทำร้าย
รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เชื่อว่าอาวุธบางส่วนที่ตรวจยึดได้จากบ้านพักใน จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นเครือข่ายของโกตี๋ เชื่อมโยงกับการถูกขู่ปองร้าย ขณะที่แกนนำกลุ่ม นปช.ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมจึงเพิ่งตรวจพบ ทั้งที่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศเกือบ 3 ปี

วันนี้ (19 มี.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชื่อของนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง แม้จะมีรายงานว่าเจ้าตัวหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านมาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ยึดอาวุธสงครามหลายรายการ ได้จากบ้านพักเครือข่ายของนายวุฒิพงศ์

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า การตรวจค้นครั้งนี้ ขยายผลมาจากการจับกุมก่อนหน้านี้ และเคยมีการตรวจค้นมาก่อน แต่ไม่พบ เพราะมีการโยกย้าย ก่อนนำกลับมาอีกครั้ง พร้อมระบุว่า
เป็นอาวุธที่เตรียมไว้สำหรับแผนลอบสังหาร พล.อ.ประวิตรด้วย โดยให้เหตุผลว่า สถานที่พบ อยู่ใกล้กับบ้านพักของ พล.อ.ประวิตร

พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ กกล.รส.กองทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า การสอบขยายผลจะพุ่งเป้าว่าจะเชื่อมโยงกับกลุ่มที่คอยก่อกวน การทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ระหว่างการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย หรือการขู่ปองร้ายนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงก่อนหน้านี้หรือไม่

ขณะที่ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่ม นปช.ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงเหตุผลที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น บ้านพักเครือข่ายของนายวุฒิพงศ์ ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีในช่วงนี้ และยังยึดอาวุธสงครามได้หลายรายการ โดยปฏิเสธว่า นายวุฒิพงศ์ ไม่ใช่ นปช.อาจพียงแค่สวมเสื้อแดงเท่านั้น เพราะ นปช.ไม่สนับสนุนความรุนแรง

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้นและยึดอาวุธสงคราม ได้มีการสืบสวนและเก็บข้อมูลมาระยะหนึ่งแล้ว ส่วนที่การตั้งข้อสังเกตว่าอาวุธที่พบค่อนข้างใหม่
ขณะที่เจ้าของบ้านไม่ได้อาศัยอยู่นานแล้วนั้น พล.ท.สรรเสริญ ระบุว่า ขณะเข้าตรวจค้นสื่อมวลชนร่วมเป็นพยานจำนวนมาก ซึ่งพบว่ามีการเก็บอาวุธไว้ในกล่องปิดผนึก และซุกซ่อนในที่ลับเฉพาะ อาจทำให้ของกลางดูใหม่ จึงไม่ใช่การจัดฉากของเจ้าหน้าที่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา และหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยไม่ต้องการให้เชื่อมโยงหรือกล่าวถึงเหตุการณ์ความรุนแรงในอดีต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง