เปิดใจกระเป๋ารถเมล์ "กังวล" หลังจะถูกปลดเพราะระบบตั๋วอิเล็กทรอนิกส์

เศรษฐกิจ
23 มี.ค. 60
12:41
1,542
Logo Thai PBS
เปิดใจกระเป๋ารถเมล์ "กังวล" หลังจะถูกปลดเพราะระบบตั๋วอิเล็กทรอนิกส์
พนักงานเก็บค่าโดยสารรถเมล์ ขสมก.เกิดความกังวลถึงอนาคตการทำงาน ว่าหากนำระบบอีทิคเก็ตมาใช้แล้ว ต้องปลดพนักงานออกทั้งหมดจะเป็นอย่างไร เพราะส่วนใหญ่มีปัญหาหนี้สินและไม่มีเงินเก็บ

เป็นเวลา 17 ปีแล้วที่ น.ส.ปราณี ชัยศรี ปฏิบัติหน้าที่พนักงานเก็บค่าโดยสาร ทุกวันจะต้องทำงานบนรถเมล์สาย 195 อู่คลองเตย-บางปะกอก ไม่ต่ำกว่าวันละ 8 ชั่วโมง ซึ่งระยะเวลาในการทำงานขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร อาชีพที่เคยคิดว่ามั่นคง

วันนี้ปราณียอมรับว่ามีความกังวล เพราะทุกวันนี้เงินเดือนแทบไม่พอมาจุนเจือครอบครัว และยังมีหนี้ หากจะออกไปค้าขายก็ไม่มีเงินทุน แม้จะมีข่าวมาก่อนหน้านี้แล้วว่าองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. จะใช้ระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีทิคเก็ต เข้ามาใช้งานบนรถโดยสารประจำทาง แทนที่พนักงานเก็บค่าโดยสาร ซึ่งขณะนี้กระบวนการอยู่ระหว่างการประมูลติดตั้ง

“ให้รถมาก่อนไหมแล้วค่อยมาโละพนักงาน มีรถไหม คุณจะใช้ระบบนี้จริงไหม แน่นอนหรือเปล่า ชัวร์ไหม ไม่ใช่พอโละพนักงานแล้ว กลับไม่มีรถ ซึ่งตอนนี้เรายังไม่เห็นรถ ยังไม่เห็นความชัดเจนอะไรเลย ได้ยินแต่ว่าจะโละพนักงานเท่านั้นพนักงานกลัวกันมากเลย บางคนอายุเยอะแล้ว อายุ 40 ปี จะไปหางานใหม่ก็ไม่ใช่แล้ว จะไปทำงานอะไร ถ้าจะประกอบธุรกิจส่วนตัวก็ต้องมีเงินก้อน มีเงินลงทุน ก็ต้องเดือดร้อนไปตามๆ กัน ” น.ส.ปราณี กล่าว

ไม่ต่างจาก น.ส.กัญฐณัฐ หิรัญสวัสดิ์ พนักงานเก็บค่าโดยสาร ขสมก. พนักงานเก็บค่าโดยสาร คนนี้ที่ยอมรับว่าความไม่ชัดเจนเรื่องนโยบายทำให้พนักงานเก็บค่าโดยสารทุกคนกังวลว่าจะต้องเปลี่ยนอาชีพ หรือเกษียณอายุก่อนกำหนด เพราะปีนี้อายุ 45 ปีแล้ว และเหลือเวลาอีกเพียง 15 ปีก็จะเกษียณอายุ หากจะต้องเปลี่ยนอาชีพก็ไม่สามารถทำได้ เพราะยังมีภาระหนี้สินและต้องดูแลครอบครัว

“มีหนี้สินหลายล้าน พนักงานทุกคนเหมือนกันหมด ส่วนมากก็จะมีภาระกัน ตอนนี้ขอข้อมูลที่ชัดเจนว่าจะให้พนักงานทำอย่างไร จะให้เออร์ลี่ก็ยินดี แต่ขอให้มีเงินก้อนเพื่อไปเป็นทุนในการประกอบอาชีพต่อไป” น.ส.กัญฐณัฐ กล่าว

ปัจจุบันพนักงานเก็บค่าโดยสาร ขสมก.มีประมาณ 4,000 คน ซึ่งกรมสวัสดิการและคุ่มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน เตรียมหารือกับพนักงานและฝ่ายบริหาร ขสมก.ในช่วงสัปดาห์นี้

ซึ่งเบื้องต้นจะหารือเรื่องแนวทางการแก้ปัญหา โดยการโอนย้ายให้ไปประกอบอาชีพอื่น เช่น พนักงานขับรถที่ยังขาดกว่า 1,000 อัตรา หากไม่สามารถเปลี่ยนตำแน่งได้ ก็อาจมีโครงการเกษียณอายุราชการก่อนหนำหนด และได้รับสิทธิตามพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์

ขสมก.ระบุ 5 เมษายนเคาะประมูลอีทิคเก็ต ขณะที่โครงการรถเมล์เอ็นจีวี ยังไม่มีข้อสรุป 

วันนี้ (23 มี.ค.2560) ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารกิจการ หรือ บอร์ด ขสมก. เรื่องความคืบหน้าโครงการจัดซื้อรถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง หรือ รถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า ที่ประชุมให้นโยบายถึงเรื่องดังกล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากต้องรอความชัดเจนของข้อมูลการระบุแหล่งกำเนิดของรถก่อน แต่กรมศุลกากรได้ตอบหนังสือกลับมายัง ขสมก.แล้ว โดยระบุว่ายังอยู่ระหว่างการดำเนินการหาแหล่งกำเนิดของรถ

เบื้องต้น กรมศุลกากรเชื่อว่ารถเมล์เอ็นจีวีไม่ได้ผลิตที่มาเลเซีย แต่ยังไม่ระบุรายละเอียดแหล่งกำเนิดชัดเจน ทำให้ ขสมก. ต้องส่งหนังสือไปหากรมศุลกากรอีกครั้ง ขณะที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้เรียก ขสมก. เพื่อไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมแนะนำให้ทำหนังสือไปที่สถานทูตประเทศมาเลเซีย เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว

ส่วนโครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ หรือ โครงการระบบตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ อีทิคเก็ต ซึ่งจะนำไปติดตั้งรถโดยสาร ขสมก. 2,600 คัน วงเงิน 1,786 ล้านบาท ในวันที่ 27 มีนาคมนี้ ขสมก.จะประกาศผลผู้ที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น และผ่านการสาธิตระบบเพื่อเชื่อมโยงกับระบบตั๋วร่วม

ซึ่งคณะกรรมการจัดซื้อจะพิจารณาว่ารายใดเสนอราคาต่ำสุด ก่อนจะนำผลการคัดเลือกเสนอให้คณะกรรมการ ขสมก.พิจารณาอนุมัติ ในช่วงปลายเดือนเมษายน ซึ่งคาดว่าจะลงนามสัญญาได้ในเดือนพฤษภาคมนี้

ส่วนแผนการจัดซื้อรถโดยสารใหม่ นายสุระชัย กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการทบทวนแผนคาดว่า จะได้ข้อสรุปทั้งหมดภายในเดือนมิถุนายน ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา

สำหรับการทบทวนแผนนั้น จะพิจารณาโดยการเปรียบเทียบระหว่างรถไฮบริดกับรถที่ใช้พลังงานในรูปแบบอื่นๆ แต่คาดว่าภายในปีนี้ จะสามารถเปิดประมูลรถเมล์ไฟฟ้า 200 คัน รวมถึงการปรับสภาพรถเมล์ 672 คัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง