เด็กหญิงชาลิสา กฤตนัย หรือ น้องจูล นักแล่นเรือใบวัยเพียง 13 ปี โผเข้าสวมกอดคุณพ่อทันที หลังแล่นเรือใบข้ามอ่าวไทยถึงฝั่งได้สำเร็จ เพราะเป็นการแล่นเรือใบตามรอยเส้นทางทรงเรือใบพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เมื่อ 51 ปีก่อน
กว่าจะมีวันนี้ ชาลิชา ต้องวางแผนออกกำลังกาย ฝึกซ้อมแล่นเรือใบกลางทะเลทุกวันหยุด เกือบ 1 ปีการฝึกฝนอย่างตั้งใจทำให้เธอแล่นเรือใบข้ามอ่าวไทยได้สำเร็จภายในระยะเวลา 21 ชั่วโมง จากอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถึงหาดเตยงาม จ.ชลบุรี ระยะทาง 110 กิโลเมตร
เธอ เล่าด้วยความปลื้มปิติว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นแรงบันดาลใจสำคัญ ที่ทำให้เธอสนใจแล่นเรือใบตั้งแต่เรียน โดยบอกว่า เริ่มจากตอนแรกๆ เราทำโปรเจ็กที่โรงเรียน สมมุตว่าถ้าเราใช้เรือที่เราเล่นอยู่เป็นเรือขนาดเล็กแล่นข้ามอ่าวไทย จะเล่นได้ไหม เพราะว่าเคยมีคนทำ แต่เป็นเรือที่มีขนาดใหญ่กว่า และในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยแล่นข้ามอ่าวไทยเมื่อ 51 ปี ก่อนเราก็คิดว่าเราจะทำได้ไหมเราก็ลองหาข้อมูลดูว่า เราต้องวิ่งระยะทางเท่าไหร่ใช้เวลาเท่าไหร่ เราก็มาคำนวณว่าเราจะทำได้หรือเปล่า
แม้ตลอดเส้นทางจะมีคุณพ่อนั่งเรือติดตามอยู่ห่างๆ แต่พ่อของน้องจูล ยอมรับว่า อดเป็นห่วงลูกสาวไม่ได้เพราะบางช่วงมีลมพายุเกือบ 30 นาที
ชาติชาย กฤตนัย บอกว่า มีพายุฝนครึ่งชั่วโมงช่วงนั้นคุณพ่อใจไม่ดีเท่าไหร่แต่ก็ใช้เรือติดตามพยายามเข้าใกล้หน่อย เพื่อดูว่ามีอุบัติเหตุ เพื่อที่เราจะไปดูเรื่องความปลอดภัยได้ทัน นอกจากนี้มองว่าการที่เราได้ตามรอยพระองค์ท่านก็จะมีสิ่งที่เกิดขึ้นหลายๆอย่าง อย่างน้อยก็เรียนรู้ในเรื่องของความอดทน การที่เราต้องมุ่งมั่นในงานที่หนักเรื่องที่ยากลำบาก เราก็ต้องทำได้
นับว่าเป็นสบการณ์ครั้งสำคัญของชาลิสาและครอบครัว เพราะแม้จะมีอุปสรรคแต่ได้เรียนรู้ความมานะอดทนและความเพียร ตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยความจงรักภักดี สำหรับชาลิสา อีกสิ่งที่เธอทำได้ดีไม่แพ้การเล่นกีฬา คือ การเรียนหนังสือ เทอมนี้เธอทำคะแนนได้เกรด 4 ทุกวิชา แม้จะฝึกซ้อมแล่นเรือใบอย่างหนัก แต่ความเพียรที่ได้จากการแล่นเรือใบ ทำให้วันนี้เธอประสบความสำเร็จทั้งการเรียนและกีฬาไปพร้อมๆกัน
