"เรืองไกร" จี้ "วิษณุ" เปิดรายละเอียดเสียภาษีย้อนหลัง 9 ปี

การเมือง
3 เม.ย. 60
10:57
232
Logo Thai PBS
"เรืองไกร" จี้ "วิษณุ" เปิดรายละเอียดเสียภาษีย้อนหลัง 9 ปี
วันนี้ (3 เม.ย.) คณะทำงานกฎหมายพรรคเพื่อไทย จะยื่นเรื่องผ่านศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เรียกร้องให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยรายละเอียดการเสียภาษี ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา หลังเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี

วันนี้ (3 เม.ย.2560) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานกฎหมายพรรคเพื่อไทย ระบุว่า นายวิษณุ เครืองาม เคยระบุไว้เมื่อเดือน พ.ย.2558 ว่า ทุกคนมีหน้าที่ต้องเสียภาษีแต่จากการตรวจสอบเบื้องต้น การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.ตลอด 9 ปีของนายวิษณุ นับแต่เข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อเดือน มี.ค.2548 และเมื่อลาออกจากตำแหน่งในเดือน มิ.ย.2549 รวมถึงการยื่นบัญชีทรัพย์สินเมื่อพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อเดือน มิ.ย.2550 และเมื่อเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีอีกครั้งเมื่อเดือน ก.ย.2557 ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบว่า นายวิษณุ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นกว่า 87.5 ล้านบาท

แต่การยื่นบัญชีทรัพย์สินครั้งสุดท้าย เมื่อ 4 ก.ย.2557 นายวิษณุและคู่สมรส ยื่นแสดงว่ามีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายรวม 1.2 ล้านบาทและ 1.8 ล้านบาท ตามลำดับ แต่เมื่อคำนวณตัวเลขทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นจะอยู่ที่ เฉลี่ยต่อปี 9.7 ล้านบาท ซึ่งไม่สัมพันธ์กับรายได้ที่ยื่นไว้ล่าสุด

นอกจากนั้น นายเรืองไกร ยังระบุว่า เมื่อพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2550 พบว่า มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นกว่า 11 ล้านบาท ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่นายวิษณุ มีค่าใช้จ่ายในการส่งลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ โดยวันนี้จะยื่นเรื่องไปถึงนายวิษณุ ให้เปิดเผยประวัติการเสียภาษีตลอด 9 ปี ที่ผ่านมา รวมถึงค่าใช้จ่ายในการส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ หากมีเหตุอันควรสงสัยจะเสนอไปยังกรมสรรพากรเพื่อประเมินภาษีอีกครั้ง รวมถึงเดินหน้าตรวจสอบนักการเมืองคนอื่นด้วย

ด้านนายวิษณุ เครืองาม กล่าวว่า ยินดีชี้แจงค่าใช้จ่ายการส่งลูกเรียนต่างประเทศ หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ป.ป.ช.และกรมสรรพากรติดใจสงสัย โดยยอมรับว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจริง ส่วนใหญ่มาจากอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีทั้งที่ต้องเสียภาษีและไม่เสียภาษี รวมถึงการทำงานในช่วงที่ไม่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีและบางส่วนมาจากเงินลงทุนแอลทีเอฟและอาร์เอ็มเอฟ ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นจะเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองหรือไม่ นายวิษณุ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น

มีรายงานว่า ช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ นายวิษณุได้ถามผู้สื่อข่าวว่า รู้จักบทสวดมนต์ บทพระธรรมคุณหรือไม่ ก่อนจะสวดให้ผู้สื่อข่าวฟัง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จะฝากบทสวดให้กับใครหรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า คนนั้นต้องใช้บทสวด บังสุกุล ก่อนขึ้นรถเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล

สำหรับนายวิษณุ นอกจากจะเป็นรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายแล้ว ยังเป็นผู้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือถึงแนวทางการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังจากนายทักษิณ ชินวัตร จากกรณีขายหุ้นชินคอร์ป ให้กับกลุ่มเทมาเสก ตามข้อเสนอแนะของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ก่อนเสนอนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีข้อสรุปให้กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลังจากนายทักษิณกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง