ภาพวงจรปิดในร้านตู้คีบตุ๊กตาเมืองแทจอน ประเทศเกาหลีใต้ พบชายหนุ่มสองคนกำลังขนตุ๊กตาออกจากร้าน จนตู้คีบตุ๊กตาทั้งร้านเหลือแต่ตู้เปล่าๆ แต่ตำรวจที่มาสอบสวนกลับไม่สามารถดำเนินคดีชายทั้งสองได้ เนื่องจากตุ๊กตาทั้ง 210 ตัวไม่ได้ถูกขโมย แต่เป็นเพราะทั้งคู่ใช้ทักษะการคีบที่เหนือกว่าคนทั่วไป จนสามารถคีบตุ๊กตาหมดทั้งร้านภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง มีการคำนวณว่า ขณะที่ลูกค้าทั่วไปต้องจ่ายเงิน 280 บาทสำหรับโอกาสคีบ 12 ครั้ง หากแก๊งคีบตุ๊กตาทีมนี้สามารถคีบได้สำเร็จภายในครั้งเดียว โดยใช้เงินคีบตุ๊กตาไปเพียง 4,900 บาท ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับราคาตุ๊กตาทั้งร้านที่มูลค่าสูงถึง 63,000 บาท
ข่าวการคีบตุ๊กตาจนหมดร้านในเมืองแทจอน เป็นตัวอย่างของกระแสความคลั่งไคล้การเล่นตู้คีบตุ๊กตาของหนุ่มสาวเกาหลีใต้เป็นอย่างดี โดยคณะกรรมการควบคุมดูแลและจัดเรตเกมของเกาหลีใต้ เผยว่า ร้านตู้คีบตุ๊กตาในประเทศเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ที่มีอยู่เพียง 147 ร้านเป็น 880 ร้าน นักวิเคราะห์มองว่ากระแสมาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เมื่อร้านขายของชำหลายแห่งต้องปิดตัว พื้นที่เหล่านั้นจึงถูกเปลี่ยนเป็นร้านตู้คีบตุ๊กตา ส่วนผู้เล่นก็มองว่าการคีบตุ๊กตาเป็นกิจกรรมนันทนาการที่ใช้เงินไม่มาก เหมาะสำหรับยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง ที่คนทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของตุ๊กตาราคา 300-600 บาท จากโอกาสคีบตุ๊กตาที่ใช้เงินคราวละ 15 บาทเท่านั้น
ข่าวแก๊งคีบตุ๊กตาเมืองแทจอน ยังกลายเป็นข่าวครึกโครมบนโลกออนไลน์ในเมืองจีน หลายคนชี้ว่าตู้คีบตุ๊กตาเกาหลีใต้ ผลิตออกมาให้คีบตุ๊กตาได้ง่าย ต่างจากของจีนที่ดัดแปลงให้ผู้เล่นไม่มีวันคีบตุ๊กตาได้ บางคนเล่าว่าเงินที่หมดไปกับการคีบสามารถซื้อตุ๊กตาได้เป็น 100 ตัว บางรายชี้ว่าถึงจีนจะแบนสินค้าของเกาหลีใต้ เพราะปัญหาทางการเมือง แต่ต้องยอมรับว่าตู้คีบตุ๊กตาของแดนโสม มีมาตรฐานกว่าของเมืองจีนจริงๆ
อย่างไรก็ดี เมืองจีนยังมีบุคคลที่ได้รับฉายาให้เป็น เทพเจ้าแห่งตู้คีบตุ๊กตา อย่าง เฉินฉีทง ชายวัย 35 ปี ที่คีบตุ๊กตาได้ถึง 15,000 ตัวตลอดปีที่ผ่านมา เขาเปิดใจกับเว็บไซต์ Great Big Story ว่าเจ้าของร้านตู้คีบตุ๊กตาจะหวั่นเกรงการปรากฏตัวของเขาเสมอ บางรายยอมเลี้ยงข้าวแล้วขอร้องไม่ให้มาที่ร้านอีก โดยปัจจัย 3 ประการที่ช่วยให้คีบตุ๊กตาสำเร็จ คือความแข็งแรงของกรงเล็บ, มุมการหมุนของที่คีบ รวมถึงการจัดเรียงตุ๊กตา แต่ปัญหาของเขาในวันนี้คือที่พักเริ่มไม่พอที่จะเก็บตุ๊กตาทั้งหมด ปีที่แล้วเขาได้นำตุ๊กตานับพันตัวไปบริจาคให้กับโรงเรียนสำหรับเด็กหูหนวกและตาบอด ซึ่งการได้เห็นเด็กๆ ดีใจก็ทำให้เขามีความสุขได้ไม่แพ้กัน