หมอเตือนเด็กเล็กเสี่ยง"ไวรัสหูดข้าวสุก"พบมากช่วงหน้าร้อน

สังคม
21 เม.ย. 60
11:33
2,899
Logo Thai PBS
หมอเตือนเด็กเล็กเสี่ยง"ไวรัสหูดข้าวสุก"พบมากช่วงหน้าร้อน
กรมการแพทย์ เตือนช่วงปิดเทอมหน้าร้อนเด็กเล็กตั้งแต่ 1 ปีเสี่ยงเจอ "ไวรัสหูดข้าวสุก"โดยเฉพาะการพาไปทำกิจรรม ในสวนสาธารณะ สระว่ายน้ำ เนื่องจากติดทางผิวหนังได้จากการสัมผัส พบเป็นตุ่มใสขนาดเล็กมีสีเนื้อรูปโดม

วันนี้(21 เม.ย.2560) นพ.ธีรพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงฤดูร้อน ประกอบกับเป็นเวลาที่เด็กนักเรียนกำลังปิดเทอม ผู้ปกครองจึงมองหากิจกรรมให้เด็กๆได้ผ่อนคลายตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น สวนสาธารณะ สระว่ายน้ำ ซึ่งสถานที่เหล่านี้มักมีการทำกิจกรรมร่วมกัน อาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคต่างๆ หากสถานที่เหล่านั้นไม่มีระบบการจัดการด้านสุขอนามัยที่ดี ส่งผลให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไปสู่เด็ก เนื่องจากเด็กเล็กมีระบบภูมิคุ้มกันที่ยังไม่พัฒนาเต็มที่ ทำให้เชื้อโรคสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย

โดยเชื้อไวรัสที่พบบ่อยในสถานที่ที่มีความร้อนชื้น คือ ไวรัสหูดข้าวสุก พบได้ในเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไปและติดต่อโดยการสัมผัสทางผิวหนังโดยตรง จากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งซึ่งเชื้อไวรัสชนิดนี้ สามารถเข้าทางผิวหนังที่เป็นแผลและแพร่กระจายจากบริเวณหนึ่งไปยังอีกบริเวณหนึ่งได้จากการสัมผัส อาการที่พบในเด็ก คือ มีลักษณะเป็นตุ่มใสขนาดเล็กมีสีเนื้อรูปโดม เป็นหลุมตรงกลางบริเวณใบหน้า มักพบในบริเวณที่สัมผัสหรือเสียดสีกัน เช่น ข้อพับแขน รักแร้ ขาหนีบ

ทั้งนี้ อากาศร้อนและความชื้นสูงจะทำให้เป็นมากขึ้น เนื่องจากเชื้อไวรัสสามารถเจริญเติบโตได้ดี หากมีการแกะเกาจะมีอาการบวม แดง ผิวหนังอักเสบและเป็นหนองได้ ผู้ปกครองจึงควรหมั่นสังเกตความผิดปกติทางร่างกายของบุตรหลาน หากพบว่ามีลักษณะอาการข้างต้น ควรรักษาแต่เนิ่นๆเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อและควรเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ ซึ่งแพทย์อาจใช้เข็มสะอาดแคะก้อนในหูดออก หรือทายากระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และต้องใช้ระยะเวลารักษาติดต่อกันหลายเดือน

อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า  เนื่องจากพบประวัติการติดเชื้อของผู้ป่วยส่วนใหญ่เกิดในสถานที่ที่ค่อนข้างชื้น เช่น สถานที่ออกกำลังกายสาธารณะ สระว่ายน้ำหรือการใช้อ่างอาบน้ำร่วมกัน ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานภายหลังจากทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคหูดข้าวสุกเพราะโรคนี้สามารถติดต่อได้โดยง่าย จากการสัมผัสผิวหนังระหว่างกัน  เลี้ยงการใช้ครื่องใช้ที่ใช้ร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า เสื้อผ้า รองเท้า และไม่ควรว่ายน้ำในขณะที่มีบาดแผล เพราะจะเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อได้ง่ายกว่าปกติ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง