วันนี้ (23 เม.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม พร้อมด้วยทีมสัตว์แพทย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และตัวแทนชาวประมงพื้นบ้าน จ.ตรัง ร่วมกันจับพะยูนเพิ่มอีก 2 ตัว เพื่อติดตั้งอุปกรณ์สัญญาณดาวเทียมติดตามตัว
ทั้งนี้ ตัวที่ 1 ตั้งชื่อว่า "เอิร์ท" ลำตัวยาวประมาณ 240 เซ็นติเมตร น้ำหนัก 240 กิโลกรัม และ ตัวที่ 2 ชื่อ "คุ้มครอง" ลำตัวยาว 261 เซ็นติเมตร น้ำหนัก 260 กิโลกรัม ทั้งสองตัวเป็นพะยูนเพศผู้ตัวเต็มวัย สุขภาพแข็งแรง แต่เอิร์ทมีบาดแผลกรีดยาวลึกและรอยขีดข่วนทั่วบริเวณแผ่นหลัง คาดว่าเกิดจากการต่อสู้เพื่อแย่งชิงพะยูนเพศเมีย ทางทีมสัตว์แพทย์ได้ถ่ายภาพทั้งบนน้ำและใต้น้ำ โดยเฉพาะบริเวณส่วนหางซึ่งบ่งบอกอัตลักษณ์ของพะยูนแต่ละตัว เพื่อนำข้อมูลไปศึกษาวิจัย พร้อมเก็บตัวอย่างเลือด ดีเอ็นเอ ตรวจวัดขนาด ตรวจสุขภาพทั่วไป ซึ่งพบว่าพะยูนเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีอุณหภูมิใกล้เคียงกับมนุษย์คือ 36.1 องศาเซลเซียส จากนั้นติดตั้งสัญญาณดาวเทียมติดตามตัวพะยูนแล้วปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
นายมาโนช วงษ์สุรีย์รัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม กล่าวว่า จากการติดตั้งสัญญาณดาวเทียมให้กับพะยูนตัวแรก เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับพะยูนที่ดีที่สุดในประเทศไทย ทำให้ทราบถึงเส้นทางหากินและแหล่งอาศัยของพะยูน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการอนุรักษ์พะยูนในอนาคต
ขณะที่ รศ.สพ.ญ.นันทริกา ชันซื่อ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงพะยูนตัวแรกที่จับได้เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า ค่าของเลือดอยู่ในมาตรฐานที่ได้ใกล้เคียงกับพะยูนในออสเตรเลียมาก นอกจากนี้ระหว่างการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ยังได้พบเห็นพะยูนจักรี ที่ติดตั้งสัญญาณดาวเทียมทรงกระบอกสีแดงไปก่อนหน้านี้ เข้ามาว่ายน้ำกินหญ้าทะเลตามปกติ บริเวณหาดหยงหลิง-เกาะมุก ทางทีมสัตว์แพทย์จึงดำน้ำเข้าไปดูในระยะใกล้ พบว่าพะยูนจักรีมีสุขภาพแข็งแรง ว่ายน้ำได้อย่างคล่องแคล่ว สามารถหากินหญ้าทะเลได้ตามปกติ
