วานนี้(23เม.ย.2560) ผู้สนับสนุนของนางมารีน เลอ เปน ผู้สมัครที่มีแนวคิดขวาจัดจากพรรคเนชั่นแนล ฟรอนท์ (National Front) วัย 48 ปี และผู้สนับสนุนของนายเอมมานูเอล มาครอง ผู้สมัครอิสระสายกลางวัย 39 ปี ต่างเฉลิมฉลองแสดงความยินดีหลังจากทั้งคู่คว้าชัยในการเลือกตั้งรอบแรก และลอยลำเข้าไปขับเคี่ยวชิงชัยในการเลือกตั้งรอบ 2 ซึ่งเป็นนัดชี้ชะตาในวันที่ 7 พ.ค.นี้
โดยนางเลอ เปน ประกาศบนเวทีท่ามกลางผู้สนับสนุนที่มาให้กำลังใจว่า พรรคเนชั่นแนล ฟรอนท์จะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ให้กับชาวฝรั่งเศส พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะเปิดการถกอภิปรายที่จำเป็นอย่างมากในเรื่องกระแสโลกาภิวัตน์
เธอ ยังประกาศตัวเป็นผู้สมัครที่พร้อมจะทำงานเพื่อประชาชน และชี้ว่าความอยู่รอดของฝรั่ง เศสกำลังอยู่ในความเสี่ยง พร้อมทั้งระบุว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งประวัติศาสตร์
นางเลอ เปน เป็นผู้นำพรรคเนชั่นแนล ฟรอนท์ มีแนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรป หรือยูโรเซปติก (Eurosceptic) นอกจากนี้ยังเป็นผู้ที่มีแนวคิดขวาจัดสุดโต่ง เช่นเดียวกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมพ์ ผู้นำสหรัฐฯ โดยชูนโยบายฝรั่งเศส ต้องมาก่อน รวมทั้งต่อต้านผู้อพยพและต้องการขับพวกหัวรุนแรงออกจากประเทศ ซึ่งเป็นแนวนโนบายที่สร้างความหวาดวิตกให้กับยุโรปและอีกหลายประเทศ
ด้านนายเอมมานูเอล มาครอง ผู้สมัครอิสระสายกลาง ขึ้นเวทีกล่าวขอบคุณผู้สนับสนุนหลังทราบผลการเลือกตั้ง นอกจากนี้นายมาครองยังกล่าวขอบคุณ นายฟรองซัวส์ ฟียง ผู้สมัครหัวอนุรักษ์นิยมจากพรรครีพับลิกัน ที่ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ และขอให้ผู้สนับสนุนหันไปเทคะแนนให้กับนายมาครอง
นายมาครอง ยังกล่าวระหว่างการประกาศชัยชนะว่า กลุ่มออง มาร์ช (En Marche) ที่เขาเป็นผู้ผลักดันก่อตั้งสามารถพลิกโฉมการเมืองฝรั่งเศสได้ ในเวลาเพียง 1 ปี โดยกลุ่มออง มาร์เช เป็นกลุ่มเคลื่อนไหวการเมืองที่มีจุดยืนสายกลางและเน้นการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันในฝรั่งเศส
นายมาครอง เคยเป็นนักการธนาคาร และอดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจ มีแนวคิดสนับสนุนสหภาพยุโรป และมีนโยบายที่สวนทางกับนางเลอ เปน นอกจากนี้ยังไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งมาก่อน ขณะที่ผลสำรวจล่าสุดชี้ว่า หากนายมาครอง ได้ผ่านเข้าไปขับเคี่ยวในการเลือกตั้งรอบสอง เขาได้จะรับชัยชนะ และกลายเป็นประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองของฝรั่งเศส
ท่ามกลางการเฉลิมฉลอง ยังมีชาวฝรั่งเศสบางส่วนที่ไม่พอใจผลการเลือกตั้งและออกมาชุม นุมประท้วงในกรุงปารีส โดยผู้ประท้วงส่วนใหญ่อยู่ในอาการผิดหวัง เสียใจ และโกรธแค้นที่นางเลอ เปน และนายมาครอง ได้ผ่านเข้าไปชิงชัยในการเลือกตั้งนัดชี้ชะตา