ปริศนา “รอยสักนกฮูก” กับคดีขายบริการทางเพศ

ภูมิภาค
28 เม.ย. 60
18:31
19,360
Logo Thai PBS
ปริศนา “รอยสักนกฮูก” กับคดีขายบริการทางเพศ
แกะรอยปริศนารอยสักนกฮูก ที่นิยมสักในกลุ่มวัยรุ่นหญิง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งมีข้อสันนิษฐานว่าอาจ เกี่ยวข้องกับขบวนการการนำเด็กมาให้บริการทางเพศ กับข้าราชการระดับสูง จนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่คุ้นเคย

วันนี้(28เม.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจชุดสอบสวนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำตัว ช่างสัก 2 คน ในพื้นที่แม่ฮ่องสอน สอบสวนหลังผู้เสียหายในคดีบังคับเด็กหญิงขายประเวณี ระบุว่า กลุ่มจะมีรอยสักรูปนกฮูก ไว้บนร่างกาย ซึ่งทั้ง 2 คน ระบุว่ากลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่จะนิยมสักลายนกฮูกเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือว่าความชื่นชอบส่วนตัวเท่านั้น ไม่ได้เป็นแก๊งค้ากามตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด

ส่วนที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีการเรียก ผู้บังคับการจังหวัด และหัวหน้าสถานีตำรวจในสังกัด ประชุมด่วนเพื่อรับนโยบายที่เกี่ยวข้องที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด ค้าประเวณี โดยเน้นให้ดูแลเด็กอายุต่ำกว่าอายุ 18 ปี เป็นกรณีพิเศษ

พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค กล่าวว่า ตำรวจภูธรภาค 5 และกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์  อยู่ในระหว่างการสอบสวนคดีบังคับเด็กหญิงขายประเวณี ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำชับ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และยืนยันว่าจะไม่ละเว้นผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการให้ถ้อยคำของนายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย และนายคณนาถ คะชะนา รองประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประ เทศไทย ต่อ นายประยูร รัตนเสนีย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เกี่ยวข้องใช้บริการทางเพศ ระบุว่า เมื่อวันที่1 ตุลาคม ระหว่างการจัดงานเลี้ยงต้อนรับเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มารับตำแหน่ง ณ อาคารบุญชูตรีทอง โรงเรียนฮ่องสอนศึกษา อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ข้าราชการในพื้นที่ ได้นำเด็กมาบริการตามธรรมเนียมปฏิบัติ ที่ปรากฎอยู่บ่อยครั้ง


หลังงานเลี้ยงข้าราชการระดับสูงหลายนาย ได้นำเด็กหญิงไปใช้บริการ ณ สถานที่หลายแห่ง และหลังแจ้งความได้มีการลบรายชื่อ เจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูง ออกจากสำนวนการสอบสวน ซึ่งมารดาผู้เสียหายได้สอบถามถึงเหตุผลกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้รับการชี้แจงว่าการบึนทึกเสียงระหว่างการสอบสวนมีปัญหา ทั้งนี้รองปลัดกระทรวงมหาดไทยกำหนดกรอบการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้ไว้ 30 วัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง