ก.คมนาคม สั่งเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบโครงการก่อสร้าง

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากอุบัติเหตุเครนเหล็กร่วงหล่นมา ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดทุกแห่งที่มีโครงการก่อสร้าง เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบโครงการก่อสร้าง และจะต้องจัดทำแผนการกำกับและตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยในการก่อสร้าง หรือ Safety Audit Plan เพื่อตรวจสอบว่า ผู้รับเหมาได้ปฏิบัติตามขั้นตอนความปลอดภัยหรือไม่และจากนี้ต่อไปหน่วยงานเจ้าของโครงการก่อสร้างจะต้องทำ Safety Audit Planด้วย เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจการชั้นที่ 3 จากปัจจุบันที่มีการทำ safety Audit Plan แค่ 2 ส่วนเท่านั้น คือในส่วนของบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างและบริษัทที่ปรึกษาคุมงานเท่านั้น

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ซึ่งเป็นผู้สนุนเงินกู้โครงการนี้พิจารณาขึ้นบัญชีดำ (แบล็กลิสต์) บริษัทอิตาเลียนไทยฯ ผู้รับเหมาโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงที่เกิดอุบัติเหตุนั้น รัฐมนตีว่าการกระทรวงคมนาคม บอกว่า ยังไม่ได้รับแจ้งเรื่องนี้จากJICAแต่อย่างใด

ด้านนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ถ้าผู้รับเหมากระทำผิดมาตรฐานความปลอดภัยและเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงซ้ำซาก ก็ได้สั่งการให้หน่วยงานเจ้าของโครงการไปดูรายละเอียดสัญญาว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง หรืออาจจะกลับไปพิจารณาใช้วิธีให้คะแนนผู้รับเหมา หรือ ทำการจัดลำดับความปลอดภัยของผู้รับเหมาแต่ละราย เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาคัดเลือกผู้รับเหมาในอนาคต

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ กรรมการและรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะให้บริษัทอิตาเลียนไทย เข้าพื้นที่ก่อสร้างได้ตามปกติเมื่อใด เพราะต้องรอผลการตรวจสอบจาก วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยก่อน

เบื้องต้นสภาวิศวกรได้ตั้งประเด็นสาเหตุของอุบัติเหตุไว้ 4 ประเด็นคือ 1.การออกแบบการยึดโครงเหล็กเข้ากับหัวเสาถูกต้องหรือไม่ 2. การก่อสร้างถูกต้องหรือไม่ มีการขันยึดเหล็กให้เข้ากับหัวเสาอย่างแน่นหนาหรือไม่ 3.มีการกำหนดระบบป้องกันอื่นกรณีที่เหล็กขาดหรือไม่ และ 4.วัสดุ เช่น เหล็ก เป็นวัสดุที่ได้มาตรฐานและมีกำลังรับน้ำหนักเป็นไปตามที่ออกแบบหรือไม่
ทั้งนี้ สภาวิศวกรจะดำเนินการสอบสวนประเด็นทั้งหมด โดยยังไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออกไป