การเล่นเกมส์สะสมแต้มผ่านแอพลิเคชั่นธนาคาร ภายในงานมันนี่ เอ็กซ์โป 2017 เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมกระตุ้นให้ผู้ใช้บริการทางการเงิน ดาวน์โหลดแอพลิเคชั่นโมบายแบงก์กิ้ง สมัครพร้อมเพย์ สมัครบัตรเครดิตกับธนาคาร นับเป็นช่องทางหนึ่ง ที่ธนาคารจูงใจเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค โดยผู้ใช้บริการบางส่วนบอกว่า การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและส่วนลดต่างๆ ที่ได้รับหากชำระสินค้าและบริการผ่านช่องทางดังกล่าว ประกอบกับความสะดวกรวดเร็วในการใช้งานทำให้ทุกวันนี้ใช้เงินสดลดลงเมื่อเทียบจากอดีต
ไม่เพียงการใช้จ่ายผ่านโมบายแบงก์กิ้งเน็ตแบงก์กิ้ง ปัจจุบัน สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐและธนาคารพาณิชย์ ต่างทยอยกันออก เครื่องเวอร์ชวล เทลเลอร์ แมชชีน หรือ สาขาธนาคารเสมือนจริง ซึ่งเครื่องดังกล่าวสามารถให้บริการลูกค้าได้เหมือนกับไปสาขาธนาคาร ตั้งแต่ ฝาก ถอน โอน เปิดบัญชี ขอรายการเคลื่อนไหวในบัญชี หรือ สเตรทเม้นท์ ไปจนถึง ออกบัตรเดรบิตได้อย่างรวดเร็ว
เช่นเดียวกับ การขยายตัวของตู้เติมเงินออนไลน์ของบริษัทเติมบุญ ผู้ให้บริการตู้เติมเงินชำระค่าสินค้า บริการและสาธารณูปโภค ที่ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด มากกว่า 100,000 ตู้ แต่ละวันมียอดทำรายการกว่า 2.1 ล้านรายการ มีผู้ใช้บริการมากกว่า 23.4 ล้านเลขหมายทำให้ผู้บริหารบริษัท ออกแอพลิเคชั่นในลักษณะ กระเป๋าเงินอิเล็คทรอนิกส์ (E-Wallet) เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามเทคโนโลยี แต่ยังเป็นห่วงเรื่องความรู้ความเข้าใจของผู้บริโภคที่บางส่วนยังกังวลปัญหาความปลอดภัยในการใช้บริการ รวมทั้งการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากสมัครใช้บริการประเภทนี้
ยุทธศาสตร์แนทชันนอล อีเพย์เม้นท์ ของรัฐบาล ประกอบกับ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและการสื่อสารช่วยให้ธุรกิจใหม่เติบโต ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบสามารถลดต้นทุนการบริหารเงินสดได้ปีละไม่น้อยกว่า 100,000 ล้านบาท
จากการลดปริมาณธุรกรรมในสาขาและตู้เอทีเอ็มแต่ไทยจะเดินไปสู่สังคมไร้เงินสดเหมือนประเทศพัฒนาแล้วได้หรือไม่คงยังมีอีกหลายปัจจัยโดยเฉพาะเรื่องการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องเอาจริงเอาจังกับการคุ้มครองสิทธิผู้ใช้บริการทางการเงิน ควบคู่ไปกับการให้ความรู้ประชาชนให้เท่าทันกลยุทธของสถาบันการเงินเพราะหากไทยกลายเป็นสังคมไร้เงินสดได้ ย่อมหมายถึง การเพิ่มโอกาส และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม