วานนี้ (23พ.ค.2560) น.ส.เจียมจิตร สมสอน อายุ 54 ปี หรือ"ป้าเขียว"ผู้ประกอบการนำเที่ยวชุมชนชื่อ "กรีนนำเที่ยว" แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า ปะการังจานขนาดใหญ่มีอายุนับพันปีอยู่ในถ้ำหน้าอ่าวกรวด บนเกาะเวียงซึ่งเป็นจุดสีสันของชุมชนดึงดูดนักท่องเที่ยวถูกแก๊งค้าปะการังขโมยไปจากถ้ำดังกล่าวจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ
จากการดำน้ำสำรวจยังจุดปะการังจานถูกขโมย ซึ่งพบร่องรอยการขุดเจาะตัดเอาปะการังจานออกไปจากโขดหิน และจุดเคลื่อนย้ายยังพบว่ามีการแตกหักเป็นเสี่ยงๆ 3 ชิ้นขนาดกว้างกว่า 1 เมตร คาดว่ากลุ่มบุคคลที่เข้ามาขโมยพยายามเคลื่อนย้ายปะการังจาน ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า 5 เมตร และน้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัมออกไปจากปากถ้ำแต่เอาออกไปไม่ได้
เนื่องจากปากถ้ำมีความกว้างเพียง 1 เมตร จนแตกหักจึงทิ้งกองไว้บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน รวมทั้งหามาตรการเฝ้าระวังป้องกันในอนาคตต่อไป
ชาวบ้าน ระบุว่า ตอนนี้ปะการังจานเป็นจุดขายดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศนิยมมาดำน้ำชมความสวยงาม เมื่อถูกขโมยไปแล้ว ซึ่งรู้สึกเสียใจ และหดหู่มาก เพราะปะการังจานจะเติบโตได้เพียงแค่ 1-2 เซนติเมตรเท่านั้น จึงใช้เวลานับพันปี
ขณะที่ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า บอกเลยว่าโกรธมากครับ วันนี้อุตส่าห์มีเรื่องดีๆ พาคณะท่านรมต.มาหาทางช่วยรักษาปะการังกระบี่ งานก้าวหน้าไปมากมาย แต่เมืองไทยก็ยังมีคนชั่วพยายามทำร้ายทะเล ขโมยปะการังตามที่ต่างๆ ตั้งแต่ชลบุรีจนมาถึงกรณีล่าสุดที่ชุมพร ก็คงได้แต่หวังว่าเจ้าหน้าที่จะตามจับได้ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าไอ้คนที่มันทุบหม้อข้าวชาวบ้านแลกกับเงินไม่กี่บาท มันเอาส่วนไหนของร่างกายมาคิด อย่างไรก็ตาม ขอบคุณป้าที่ช่วยเป็นหูเป็นตา เราต้องการคนอย่างคุณป้าอีกมากๆ ครับ #อย่ายอมแพ้คนชั่ว