วันนี้ (6 มิ.ย.2560) ผู้สื่อข่าว รายงานว่า รถยนต์ Land Rover สีขาว คันนี้ มีป้ายทะเบียนของประเทศกัมพูชา ถูกนำมาจอดไว้ที่สถานีตำรวจภูธรบ้านท่าเลื่อน อยู่ห่างจากด่านชายแดนไทย - กัมพูชา ประมาณ 70 กิโลเมตร รถคันดังกล่าวเป็นรถต้องสงสัยที่ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบว่าเป็นรถยนต์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ รถกระบะของ พ.อ.อ.ภคิน เดชพงษ์ ทหารอากาศ ที่ขนส่งอาวุธสงคราม โดยนัดส่งอาวุธ ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวอำเภอเมือง จ.ตราด โดยมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดของทางโรงแรม จับภาพได้ เมื่อวันที่ 2 ต่อเนื่อง ช่วงเช้าวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบอาวุธและยึดเป็นของกลาง รวม 21 รายการ เช่น ปืนกล , ปืน AK47 ระเบิดชนิดกว้าง สังหาร , กระสุนปืนขนาด 9 มม. ,กระสุน M79 จำนวน 53 ลูก ลูกกระสุน AK รวมกว่า 4,000 นัด วิทยุสื่อสารติดรถยนต์พร้อมรีโมท จำนวน 1 ชุด
รถยนต์ของชาวกัมพูชาคันนี้ ถูกตั้งข้อสังเกตว่า ผ่านข้ามชายแดนเข้ามาในประเทศไทย บริเวณด่านบ้านหาดเล็ก โดยไม่ถูกตรวจค้น เนื่องจากข้างตัวรถติดสติ๊กเกอร์ที่มีลักษณะคล้ายกับโลโก้พรรคการเมืองหนึ่งของกัมพูชา และภายในกระจกรถยนต์ด้านซ้าย ยังมีบัตรสติ๊กเกออร์ ภาษากัมพูชา ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า เป็นสัญลักษณ์ที่ผ่านเข้าออกด่านชายแดนได้โดยไม่ต้องตรวจค้น
ขณะที่การสอบสวนเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานของตำรวจ ทยอยเก็บลายนิ้วมือบนอาวุธสงครามจำนวนมากที่เป็นของกลาง ที่พบในรถยนต์กระบะ ซึ่งมี พ.อ.อ.ภคิน ทหารอากาศ เป็นผู้ขนอาวุธ แต่หลังจากรับขนถ่ายอาวุธสงคราม มาจากรถของชาวกัมพูชาเสร็จ ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุรถไหลลื่นตกถนนสุขุมวิท ช่วง ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ทำให้อาวุธกระเด็นออกมาและเมื่อชาวบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ จึงพบเห็นและควบคุมตัว
การติดตามคดี มีการประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่กองบังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดตราด เมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.2560) โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านความมั่นคง ยืนยันว่า จะขยายผลการสอบสวนโดยไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งประเด็นการก่อเหตุไม่สงบในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงบุคคลเกี่ยวข้อง โดยสั่งเจ้าหน้าที่สรุปรายงานเบื้องต้นภายใน 1 สัปดาห์
ด้าน พ.อ.อ.ภคิน ให้ข้อมูลโดยยอมรับว่า ปัจจุบันสังกัดอยู่กองทัพอากาศจริง ส่วนบัตร กอ.รมน.มีอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัด คนหนึ่งนำบัตรมามอบให้แต่ไม่เคยถูกเรียกไปช่วยงานที่ กอ.รมน.ส่วนอาวุธสงคราม พ.อ.อ.ภาคิน ระบุว่า ขนส่งเพื่อค้าขายโดยรับสินค้ามาจากคนกัมพูชาเพื่อขนส่งต่อไปให้คนพม่าที่บริเวณ อ.แม่สอด จ.ตาก
พ.อ.อ.ภคิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ครั้งนี้ทำเป็นครั้งที่ 3 รับค่าขนส่งเป็นเงินสดโดยมีชาวกัมพูชาขับรถข้ามแดนเข้าไทย นัดรับอาวุธสงครามและขนถ่ายที่โรงแรมใน จ.ตราด โดยยืนยันว่า การค้าอาวุธไม่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุไม่สงบในประเทศไทยของกลางที่ยึดได้ทั้ง 18 รายการ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามีวัตถุระเบิด อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ที่นายทะเบียนไม่ได้ออกใบอนุญาตไว้ในครอบครอง โดยเบื้องต้นมี 3 บุคคลเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้