รถเครนบรรทุกเสาเหล็ก “เสียสมดุล” แหงนตั้งฉากกับพื้น ไร้คนเจ็บ-เสียชีวิต

อาชญากรรม
7 มิ.ย. 60
16:54
773
Logo Thai PBS
รถเครนบรรทุกเสาเหล็ก “เสียสมดุล” แหงนตั้งฉากกับพื้น ไร้คนเจ็บ-เสียชีวิต
เกิดเหตุรถเครนบรรทุกเสาเหล็กเสียการสมดุล ทำให้หัวรถแหงนขึ้น เกือบตั้งฉากกับพื้นถนน บริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพอากาศ

วันนี้ (7 มิ.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ บริษัท ยูนิค ฟาวน์เดชั่น เตรียมเคลื่อนย้ายรถเครน ที่รับน้ำหนักเสาเหล็กจำนวนมาก จนทำให้เสียสมดุล หัวรถเครนแหงนขึ้น บริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว หน้ากองบัญชาการกองทัพอากาศ แต่ตัวรถไม่ได้ออกนอกพื้นที่ก่อสร้าง เพราะถูกเสาไฟฟ้าข้างทางคำ้ยันไว้

 

 

สำหรับสาเหตุ เจ้าหน้าที่รับเหมาก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าฯ คาดว่า เกิดจากรถเครนรับน้ำหนักของเสาเหล็กที่กำลังเคลื่อนย้ายไม่ไหว ทำให้วัตถุเทน้ำหนักไปด้านท้าย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบถามคนขับถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น

 

 

ขณะที่การจราจรบริเวณนี้ค่อนข้างติดขัด เนื่องจากบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นจุดกลับรถ เจ้าหน้าที่ปิดเส้นทางเพื่อป้องกันอันตราย ขณะเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนรถ

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า อุบัติเหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 11.35 น. ณ บริเวณเกาะกลาง ถนนพหลโยธิน หน้าโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช

โดยขณะเกิดเหตุ กิจการร่วมค้า UN-SH-CH ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา สัญญาที่ 2 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ได้ใช้รถเครน 55 ตัน หมายเลข 87 ทำงานยกก้านเสาเข็มเจาะจากรถเทรลเลอร์ เพื่อเตรียมงานในพื้นที่ก่อสร้าง ในระหว่างที่กำลังจะวางก้านเสาเข็มเจาะไปยังด้านหลังรถเครนจนเกือบถึงพื้นนั้น กว้านรอก (wrinch) ที่ใช้ยกเกิดการล๊อคตัวในขณะที่ปล่อยลวดสลิงลง ทำให้เกิดแรงกระชาก (Shock load) ส่งผลทำให้รถเครนสูญเสียเสถียรภาพและพลิกคว่ำลงจากแรงกระชากดังกล่าว ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด 

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รฟม.ได้สั่งการให้ผู้รับจ้างฯ ระงับการปฏิบัติงานที่ใช้เครนทั้งหมดโดยทันที พร้อมทั้งกำชับให้ที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างและผู้รับจ้างฯ ดำเนินการทบทวนมาตรการด้านความปลอดภัย เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ขณะนี้ผู้รับจ้างฯ อยู่ระหว่างดำเนินการนำรถเครน 220 ตัน จำนวน 2 คัน มาทำการกู้ และเคลื่อนย้ายรถเครนคันที่พลิกคว่ำดังกล่าวออกจากพื้นที่ก่อสร้างโดยเร็วต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง