อัยการมั่นใจตามตัว "บอส วรยุทธ" กลับมาดำเนินคดีได้ก่อนหมดอายุความ

อาชญากรรม
9 มิ.ย. 60
12:46
2,241
Logo Thai PBS
อัยการมั่นใจตามตัว "บอส วรยุทธ" กลับมาดำเนินคดีได้ก่อนหมดอายุความ
อัยการมั่นใจติดตามตัว “บอส วรยุทธ อยู่วิทยา” ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง กลับมาดำเนินคดีได้ก่อนขาดอายุความ

วันนี้ (9 มิ.ย.2560) นายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามตัวนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย กรณีขับรถยนต์หรูชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 แล้วหลบหนีไม่มาตามนัดหมายของอัยการในการส่งฟ้องคดี ว่า ได้หารือร่วมกับ พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการจัดทำเอกสารเพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งต้องใช้เอกสารจำนวนมากและใช้ความละเอียดเพื่อป้องกันความผิดพลาด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำร้องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรายละเอียดที่อยู่ของผู้ต้องหามาประกอบเท่านั้น รวมถึงร่วมกันหารือกรอบแนวทางการปฎิบัติ

ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่าในที่ประชุมได้มีการหารือกับตำรวจถึงรายละเอียดการประสานกับตำรวจสากลเพื่อขอออกหมายจับนายวรยุทธ รวมถึงการยืนยันแหล่งที่อยู่ว่ายังอยู่ที่ประเทศอังกฤษหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ชี้แจง เนื่องจากอาจส่งผลต่อขั้นตอนการปฏิบัติงาน

ส่วนการติดตามตัวนายวรยุทธกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยจะสามารถติดตามตัวได้ก่อนที่บางข้อหาจะขาดอายุความในวันที่ 3 ก.ย.นี้ หรือไม่ นายประยุทธ อัยการและตำรวจซึ่งเป็นคณะทำงานได้ปฏบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่องและประชุมหารือกันอย่างเข้มข้น โดยให้ความมั่นใจว่าจะติดตามตัวนายวรยุทธกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยก่อนคดีจะขาดอายุความ

สำหรับการติดตามตัวนายวรยุทธ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.2560 ที่ผ่านมา หลังอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ ประสานพนักงานสอบสวนทองหล่อให้ขอศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับเพื่อติดตามตัวมาฟ้อง เมื่ออัยการยืนยันคำสั่งให้ฟ้องนายวิทยา 2 ข้อหา ฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท อายุความ 15 ปี ซึ่งจะหมดอายุความในวันที่ 3 ก.ย.2570 และข้อหาขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ผู้ได้รับความเสียหาย และไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานในทันที หรือชนแล้วหนี ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกฯ อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับ 5,000-20,000 บาท อายุความ 5 ปี ซึ่งจะหมดอายุความในวันที่ 3 ก.ย.นี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง