นักวิชาการแนะเพิ่มสัดส่วนการใช้ยางพาราในประเทศแก้ปัญหาราคาตกต่ำ

วันนี้ (12 มิ.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาราคายางพาราที่ตกต่ำต่อเนื่องมานานกว่า 2 สัปดาห์ โดยเฉพาะชาวสวนยางที่ยังไม่รู้ทิศทางของราคาว่าจะยังคงตกต่ำต่อไปอีกหรือไม่ ชาวสวนยางทุกจังหวัดยังออกมาเรียกร้องให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เร่งแก้ปัญหาราคายางให้สูงขึ้นภายใน 10 วัน และเพิ่มผู้เล่นในตลาดยางพารา เป็นเสือตัวที่ 6 ตั้งบริษัทลูกขึ้นมารับซื้อยางจากเกษตรกรโดยตรง และขายยางออกทันทีเหมือนพ่อค้าคนกลาง เพื่อทำให้เกิดการแข่งกันในตลาดไม่ฮั้วกัน กดราคายางกับเกษตรกร แม้ที่ผ่านมา กยท.จะออกนโนยายเพื่อดูแลราคายางพารา เเต่ชาวสวนยางมองว่าไม่ช่วยให้ราคายางดีขึ้น โดยเฉพาะเพิ่มการใช้ในประเทศ จึงเสนอให้ กยท.ควรปรับนโยบายใหม่ทั้งหมด

ด้านนายอาซีซัน แกสมาน ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยและพัฒนานวัตกรรมยางพารา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เปิดเผยว่า รัฐบาลต้องหันมาใช้ยางในประเทศอย่างจริงจัง เพื่อดันราคายางในประเทศ จาก ปัจจุบันสัดส่วนการใช้ยางเพียงร้อยละ 12 เท่านั้น หากเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 20 จะมีทำให้ราคายางพาราดีขึ้นได้ รวมถึงควรเร่งแต่ละโครงการ เช่น การใช้ยางสร้างถนน เพราะที่ผ่านมายังมีความล่าช้า พร้อมทั้งสร้างตลาดกลางใหม่ที่มีความน่าเชื่อถือสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุน

ขณะที่ กยท.รับข้อเสนอของชาวสวนมาประชุมคณะกรรมการเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางระดับประเทศวันที่ 15 มิถุนายนนี้ เพื่อแก้ไขยางพาราเร่งด่วน รวมถึงการตั้งบริษัทรับซื้อยางจากเกษตรกรสามารถดำเนินการได้ แต่ต้องใช้เวลาตามระเบียบเงื่อนไขกฎหมาย ล่าสุด ราคาประมูลซื้อขายยางแผ่นดิบและยางแผ่นรมควันเฉลี่ย อยู่ที่ 56 - 58 บาทต่อกิโลกรัมเมื่อเทียบกับช่วงเดือนพฤษภาคม ยางแผ่นดิบและยางแผ่นรมควัน เฉลี่ยอยู่ที่ 70 บาทต่อกิโลกรัม