วันนี้ (16 มิ.ย.2560) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และนายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีการปราบปรามกระบวนการลักลอบนำเข้ารถยนต์หรูในราชอาณาจักร และหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร จากการตรวจสอบตามหมายค้นศาลอาญา เมื่อวันที่ 18 และ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา สามารถอายัดรถหรูไว้เพื่อตรวจสอบ จำนวน 122 คัน โดยรถยนต์หลายยี่ห้อ
เช่น ลัมโบร์กินี, โรลส์-รอยซ์, แมคคาเรน, โลตัส และหนึ่งในจำนวนรถยนต์หรูกว่า 34 คัน ที่ดีเอสไอได้อายัดมา คือรถหรูจากโชว์รูมของนายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ (บอย ยูนิติ้) ที่ตำรวจปราบปรามจับกุมตัวได้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (15 มิ.ย.) ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่นำข้อมูลที่ได้รับจากการตรวจค้นมาเทียบหลักฐานที่ได้จากต่างประเทศ พบว่ามีการสำแดงบัญชีราคาสินค้าของรถยนต์จำนวน 32 คันต่อกรมศุลกากร ไม่ตรงกับราคาซื้อขายที่แท้จริงที่ได้รับมาจากประเทศผู้ผลิต สร้างความเสียหายกว่า 650 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลได้รับความเสียหายจำนวนมาก
พ.ต.อ.ไพศิษฐ์ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ขณะนี้การดำเนินการปราบปรามการลักลอบนำเข้ารถหรูเลี่ยงภาษีศุลกากรมีความคืบหน้าไปมาก กำลังเรียกผู้เกี่ยวข้องมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป ขณะที่กรณีตำรวจกองปราบปรามควบคุมตัวนายอินทระศักดิ์ กรรมการบริษัท ออโต้ เซอร์วิส จำกัดในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนจะจับกุมตัวนายอินทระศักดิ์ได้ เมื่อวานนี้
พ.ต.อ.ไพศิษฐ์ กล่าวว่า การจับกุมที่เกิดขึ้นเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย ตามพยานหลักฐานที่มีจากหลายฝ่ายไม่ได้กลั่นแกล้งใคร และเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอน โดยก่อนที่นายอินทระศักดิ์ จะถูกควบคุมตัวนั้น นายอินทระศักดิ์ ได้ยื่นฟ้อง พ.ต.อ.ไพศิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอกับพวกรวม 12 คน ประกอบด้วยรองอธิบดีดีเอสไอ และพนักงานสอบสวน ฐานปฎิบัติหน้าที่มิชอบ บุกรุก และแจ้งข้อความที่เป็นเท็จต่อศาล กรณีที่ดีเอสไอสั่งปิดโชว์รูมรถยนต์ 2 แห่งย่านรัชดาภิเษก และสุขุมวิท 63 และยังนำกำลังตรวจค้น เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา อายัดรถหรู 34 คันสร้างความเสียหายหลายสิบล้านบาท โดยกล่าวหาว่ามีรถที่อยู่ในโชว์รูมบางส่วนถูกโจรกรรมมาจากประเทศอังกฤษ และมีการแจ้งสำแดงเท็จ เบื้องต้น มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ 2 คน