มทภ.4 สั่งเร่งจับกุมผู้ก่อเหตุยิงปชช.เสียชีวิต 3 คน อ.มายอ จ.ปัตตานี

ภูมิภาค
7 ก.ค. 60
09:44
369
Logo Thai PBS
มทภ.4 สั่งเร่งจับกุมผู้ก่อเหตุยิงปชช.เสียชีวิต 3 คน อ.มายอ จ.ปัตตานี
กอ.รมน.ภาค4 สน.แสดงความเสียใจเหตุยิงประชาชนเสียชีวิต 3 คน ในพื้นที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี มทภ.4 สั่งเร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีพร้อมสั่งฝ่ายคาวมมั่นคงดูแลบประชาชนในพื้นที่

วันนี้ (7 ก.ค.2560) เวลา 09.30 น. พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ( กอ.รมน.ภาค 4 สน.)เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุการณ์กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนและประชานเสียชีวิต 3 คน ในเขตพื้นที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อ 6 ก.ค.2560 ช่วงเวลา 18.35 – 19.20 น. รายชื่อ ผู้เสียชีวิตมีดังนี้ 1 นายมะแอ แวดอเลาะ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ที่ 3 ต.ลางา อ.มายอ จ.ปัตตานี เหตุเกิดบริเวณตลาดนัดบ้านตาแบ๊ะ หมู่ที่ 3 ต.ลางา อ.มายอ จ.ปัตตานี 2 นายมะรบอิน มะเกะ เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน อ.มายอ จ.ปัตตานี เหตุเกิดบริเวณหน้ามัสยิดบ้านคลองโต๊ะเนาะ หมู่ที่ 3 ต.สะกำ อ.มายอ จ.ปัตตานี 3 นายซำซูดิง เจะซอ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116/2 บ้านกูบังบาเดาะ หมู่ที่ 4 ต.สะกำ อ.มายอ จ.ปัตตานี เหตุเกิดบริเวณบ้านกูบังบาเดาะ หมู่ที่ 4 ต.สะกำ อ.มายอ จ.ปัตตานี

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตทั้ง 3 คน โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยบูรณาการกำลังร่วม 3 ฝ่ายและกำลังภาคประชาชน เข้าคุ้มครองและสร้างขวัญกำลังใจให้กับประชาชนในบริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมกับเร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมโดยเร็วที่สุด พร้อมให้เร่งทำการสอบสวนและตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของทั้ง 3 คน หากพบว่าเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ก็จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบ ที่ได้กำหนดไว้แล้วต่อไป

กลุ่มผู้เหตุรุนแรงยังคงพยายามสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำร้ายพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ และการโฆษณาชวนเชื่อ บิดเบือนข้อเท็จจริงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ในขณะที่กลุ่มแนวร่วมที่แอบแฝงอยู่ในองค์กรพัฒนาเอกชนบางคน ได้พยายามเคลื่อนไหวเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือในอำนาจรัฐ และทำลายภาพลักษณ์ของประเทศอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้พี่น้องประชาชน ใช้วิจารณญาณในการบริโภคข้อมูลข่าวสาร เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มบุคคลดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง