วันนี้ (15 ก.ค.2560) จากการจัดกิจกรรม "NEXT-GEN CAREERS By KTB" ปลุกเยาวชนไทยค้นหาตัวตน-อาชีพที่ใช่ในอนาคต โดยมีนิทรรศการ 24 อาชีพยอดนิยมกับ 7 สายงานให้เด็กและเยาวชนค้นหาตัวตน และอาชีพในฝันในอนาคต เช่น สายงานด้านวิศวกรรม สายงานด้าน IT สายงานการแพทย์ยอดฮิต เช่น แพทย์ผิวหนัง นักวิทยาศาสตร์การกีฬา และสัตวแพทย์ ธุรกิจอิสระ คือ โซเชียลมีเดีย ผู้ประกอบการดิจิทัล นักออกแบบทรีดี สถาปนิก และเกษตรฟาร์มอัจฉริยะ นอกจากนี้ยังมีอาชีพทางเลือกใหม่ คือ ครูสอนการแสดง เน็ตไอดอล ฟิตเนสเทรนเนอร์ นักธุรกิจอาหารคลีน นักดนตรีคัฟเวอร์หรือยูทูปเบอร์ และบิวตี้ บล็อกเกอร์
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการบริษัทบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม บริษัทธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บอกว่า กิจกรรมนี้ถือเป็นการเปิดกรอบอาชีพให้เด็กและเยาวชนเกิดแรงบันดาลใจรู้จักรับมือ วางแผนชีวิตด้านการศึกษา และเลือกอาชีพแห่งโลกอนาคต และอาชีพที่เหมาะกับตัวเองอย่างถูกทาง เพื่อปูพื้นฐานทางการศึกษาให้เด็กและเยาวชน
เขาบอกว่าแนวโน้มพบว่าเด็กเจนวาย และเจนแซด มีความสนใจในอาชีพข้าราชการน้อยลง ถึงแม้จะเป็นอาชีพที่มั่นคง แต่เด็กยุคนี่ไม่เลือกเข้าสู่อาชีพข้าราชการ เหมือนกับเด็กรุ่นเก่าวัย 40 ปีขึ้นไป เพราะความสนใจในอาชีพของเด็กรุ่นนี้ ยังสวนทางกับอาชีพที่ผู้ปกครองอยากให้เป็น เช่น อาชีพหมอ นักการเงิน เป็นต้น ขณะที่เด็กเจนวายจะเน้นอาชีพการแสดง เทคโนโลยี โซเชียลมีเดีย ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีแนวโน้มไปทางนี้ แต่ทุกอย่างต้องมีการสนับสนุนจากทั้งผู้ปกครอง ครู และทำให้เด็กเข้าสู่อาชีพอย่างถูกทาง
หากลองสอบถามความเห็นของเด็กๆที่มาร่วมงานนี้ หลายคนบอกตรงกันว่าอาชีพในฝันของพวกเธอ และเขาอยู่ใน 24 อาชีพที่นำมาแนะนำ ส่วนอาชีพรับราชการ แทบไม่มีใครอยากเป็นแล้ว
ด.ญ.กัลยาภรณ์ แต้กิจกรรม นักเรียนชั้นม.3 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรี บอกว่า สนใจอาชีพวิศวกร โดยเฉพาะด้านวกรรมโยธา เพราะปิ๊งกับชุดเสื้อช็อปของคนที่เรียน มาตั้งแต่เรียนป.6 จนถึงตอนนี้มุ่งมั่นที่จะสายวิทย์-คณิต มาตลอดเพื่อเดินตามความฝันที่จะเป็นวิศวกรโยธาในอนาคต
ส่วน ด.ช.วรพันธ์ โพธิพอ นักเรียนชั้น ม.3 มีความตั้งใจที่จะเป็นวิศวกร แต่เค้าอยากทำงานในสายปิโตรเลียม เพราะมองว่าเป็นอาชีพที่จะช่วยด้านเศรษฐกิจของประเทศในยุค 4.0 ที่ต้องการกำลังคนทางด้านพลังงาน สิ่งที่เขาเตรียมความพร้อมคือการเรียนให้ดีที่สุด และขยันอ่านหนังสือ เพื่อเตรียมตัวในการเรียนต่อในสายวิชาชีพที่อยากเป็น
สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีเด็กๆ มาร่วมงานกว่า 1,000 คน หลังจากนี้จะมีการคัดเลือกเด็กมัธยม 100 คนเพื่อเข้าเยี่ยมชมระบบการทำงานกับสายงานอาชีพต่อไป